มินดาเนาลงประชามติผ่าทางตันแบ่งแยกดินแดน
การลงประชามติครั้งนี้ ถือเป็นบทสรุปของความพยายามในกระบวนการเจรจาสันติภาพนานหลายสิบปีระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์ และกลุ่มมุสลิมติดอาวุธเพื่อยุติปัญหาความรุนแรงบนเกาะมินดาเนา
ชาวมุสลิม 2.8 ล้านคนบนเกาะมินดาเนาทางใต้ของฟิลิปปินส์ใช้สิทธิลงประชามติเกี่ยวกับแผนปกครองตนเองวานนี้ (21ม.ค.)โดยชาวมุสลิม ถือเป็นชนกลุ่มน้อยในฟิลิปปินส์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ชาวมุสลิมที่ลงประชามติจะตัดสินใจว่าจะให้การสนับสนุนหรือไม่ต่อแผนสันติภาพที่ได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน และรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการตั้งเขตปกครองตนเอง ซึ่งใช้ชื่อว่า บังซาโมโร
เจ้าหน้าที่ระบุว่า การลงประชามติเป็นไปอย่างสงบ มีผู้ใช้สิทธิออกเสียงจำนวนมากและคาดว่าจะมีการประกาศผลการนับคะแนนภายในเวลา 4 วัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตได้ลงนามในกฎหมาย Bangsamoro Organic Law (บีโอแอล) เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ด้วยความหวังว่ากฎหมายนี้จะช่วยยุติความขัดแย้งกับชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา หลังจากที่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในดินแดนดังกล่าวกับกองกำลังของรัฐบาลในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
กฎหมายบีโอแอล เป็นผลของการเจรจาเป็นเวลาหลายสิบปีระหว่างกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (เอ็มแอลไอเอฟ) และรัฐบาลฟิลิปปินส์ ภายใต้กฎหมายนี้จะมีการจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรในมินดาเนามุสลิม (บีเออาร์เอ็มเอ็ม) ซึ่งจะมีการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้ง และมีการออกกฎหมายของตนเอง
รัฐบาลของบีเออาร์เอ็มเอ็ม จะมีมุขมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีรัฐสภาที่ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 80 คน และบีเออาร์เอ็มเอ็ม จะได้รับรายได้จากเงินภาษีในสัดส่วน 75% ของภาษีที่มีการจัดเก็บในดินแดนดังกล่าว
ส่วนประเด็นความมั่นคง รัฐบาลฟิลิปปินส์จะรับผิดชอบด้านความมั่นคงและปลอดภัยในบีเออาร์เอ็มเอ็ม โดยตำรวจจากสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์จะมีการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคใน บีเออาร์เอ็มเอ็มเพื่อบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว