"พล.ต.ท.สุรเชษฐ์" ปิดล้อมตรวจค้นบ้านนายทุนเงินกู้ เครือข่าย "ยายเจี๊ยบ มีนบุรี" 30 จุด ทั่วกรุง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบช.น. พร้อมตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยวและ ชุด ศปอส.ตร. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้นแหล่งนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เครือข่าย น.ส.กรรณิการ์ ฉลองจันทร์ หรือยายเจี๊ยบ มีนบุรี โดยได้ทำการตรวจค้นเครือข่ายยายเจี๊ยบพร้อมกันในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 30 จุด มีหมายจับผู้ต้องหา 28 ราย ตรวจยึดและอายัดทรัพย์ 24 จุด ค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง 6 จุด จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 14 คน ยึดของกลางได้ทรัพย์สินรวม205.5 ล้านบาท
จุดที่น่าสนใจคือ ภายในบ้านเลขที่ 195/155 หมู่บ้านพนาสนธ์ ถนนนิมิตรใหม่ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ต้องหารวม 4 คน คือ 1.นายธันวา (สงานนามกุล) อายุ 26 ปี เป็นหัวหน้าโต๊ะเก็บดอกเบี้ยแล้วส่งให้ลูกน้องของยายเจี๊ยบมาเก็บอีกทอดหนึ่ง ผู้ต้องหาที่เหลือคือลูกน้องของนายธันวาทั้งหมดทำหน้าที่ไปเก็บเงิน หากใครไม่ให้ก็จะข่มขู่ลงมือทำร้ายร่างกาย ประกอบด้วย นายวิชาญ (สงานนามกุล) อายุ 24 ปี นายปฏิวัตร(สงานนามกุล) อายุ 19 ปี และนายชัยรัตน์ (สงานนามกุล)อายุ 28 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางที่พบทั้งรถจยย. รถยนต์ เงินสด สมุดบัญชีอีกเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดการกลุ่มเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ20-30 ซึ่งในกรุงเทพฯนั้น ลูกหนี้จะวางมัดจำรถ ไม่มีที่ดินเหมือนต่างจังหวัด ซึ่งจะต้องปราบปรามให้หมด เครือข่ายนี้ ทางยายเจี๊ยบมาทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบต่อจากสามีนายไพโรจน์ ฉลองจันทร์ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว กลุ่มเหล่านี้มีเงินหมุนเวียนวันละ 100 ล้านบาท ใช้วิธีการเก็บเงินรูปแบบแก๊ง เรียกกันว่า แก๊งหมวกกันน็อก ซึ่งจะได้ขยายผลต่อไปยังนักการเมืองรายสำคัญ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป สำหรับในส่วนโต๊ะที่ตรวจค้นในจุดเกิดเหตุนั้น คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
จากการสอบสวนนายธันวาให้การรับสารภาพว่าตนมีรายได้เดือนละเจ็ดหมื่นบาท แบ่งให้ลูกน้องเดือนละเฉลี่ยเก้าพันบาท โดยแต่ละวันจะมีรายชื่อให้ลูกน้องไปกระจายทวงดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด มีลูกค้าประมาณ 100 คน อยู่ในละแวกย่านมีนบุรีมียอดทวงหนี้เดือนล้านกว่าบาท ถ้าลูกหนี้ไม่มีเงินให้ ก็จะทำการทุบตีทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้บ้านที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นทั้ง 3 หลังพบเป็นบ้านเช่า เดือนละ13,000 บาท โดยได้เช่าบ้านหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่เดือนก.ย.61 รวมระยะเวลาเช่าบ้าน 6 เดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา อั้งยี่ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของกลางทั้งหมดจะถูกยึดทั้งหมดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป