คุมตัวหนุ่มจีน ฆ่ารัดคอชิงทรัพย์อาม่า วัย 70 ปี ทำแผนฯ เจ้าตัวกล่าว “ขอโทษ” พร้อมก้มลงกราบที่นอนจุดเกิดเหตุ ด้านลูกชายผู้ตายรับไม่ได้ทั้งๆ ที่ช่วยเหลือมาตลอด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี สว.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.ศราวุธ ปัญญาศรีวิชัย สว.สส.สน.บางเขน ได้ควบคุมตัว นายอู๋ จัว หมิง อายุ 28 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาในคดีฆ่าชิงทรัพย์น.ส.อารยา ทรัพย์สวรรค์ อายุ 70 ปี ประกอบอาชีพค้าส่งเสื้อผ้า ย่านสะพานใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่
ภายในห้องพักเลขที่ 564/38 ตั้งอยู่นิวพอร์ตเพลสคอนโด ซอยพหลโยธิน 52 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 20 นาที
โดยจุดแรกคือหน้าบริเวณวพอร์ตเพลสคอนโดอาคาร 4 ซึ่งเป็นทางขึ้นไปยังน.ส.อารยา ต่อมาได้เดินทางไปชี้ยังจุดที่สองบริเวณชั้น 2 ทางเดินที่เดินทางไปยังห้องพัก ต่อมาจุดที่สามบริเวณหน้าห้องเลขที่ 564/38 และจุดสุดท้ายคือบริเวณที่นอนที่น.ส.อารยาได้ถูกทำร่างกายจนเสียชีวิตซึ่งนายอู๋ จัว หมิง จึงได้ทำการจำลองเหตุการณ์ว่าได้ลงเมื่ออย่างไร จากนั้นเมื่อเห็นว่าน.ส.อารยา แน่นิ่งไปก็ได้ทำการปลดสร้อยทองและทรัพย์สินมีค่าก่อนจะหลบหนีไป ภายหลังจากการทำแผนขี้จุดนายอู๋ จัว หมิง ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ตนได้ทำการขอขมาพร้อมกล่าวสั้น ๆ ว่า “ขอโทษ”
นายวีรวิชญ์ เชื้อสุขศานต์ทอง อายุ 29 ปี ลูกชายผู้ตายที่ได้มาดูการทำแผนในวันนี้ ได้เปิดเผยว่า พ่อของนายอู๋ จัว หมิง รู้จักกับน.ส.อารยา ซึ่งเป็นมารดาของตน โดยมีความสนิทเป็นญาติห่างๆก้น ก็เลยมีการปลูกฝังไว้ว่า ถ้ามีคนเชื้อชาติเดียวกันมาให้ดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดี ส่วนตัวยอมรับว่ายังโกรธแค้นนายอู๋ จัว หมิง เพราะทางบ้านได้ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือที่พักแต่นายอู๋ จัว หมิง ก็ยังมาก่อเหตุฆ่าแม่อย่างเลือดเย็น และช่วง 1-2 วันก่อนเกิดเหตุ นายอู๋ จัว หมิง ได้มาพักที่ห้องที่เกิดเหตุ แต่นายอู๋ จัว หมิง ก็ได้โทรศัพท์มาหาแม่โดยอ้างว่าที่ห้องไฟดับ ให้เข้ามาดูแต่ตอนนั้นทุกคนห้ามแม่ไว้เพราะเวลาที่นายอู๋ จัว หมิงให้ไปหาคือช่วง 20.00 น.
นายวีรวิชญ์ กล่าวต่อว่า โดยการทำแผนวันนี้ก็ตั้งใจมาดูโฉมหน้า แววตา นายอู๋ จัว หมิง ว่ามีความสำนึกหรือไม่ ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่านายอู๋ จัว หมิง น่าจะมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี จึงอยากวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงโทษขั้นสูงสุด แม้ผู้ต้องหาจะการกราบขอขมาแม่ ยังจุดที่ลงมือฆ่าไปแล้วก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่สำนึก และหากออกมาอาจต้องก่อเหตุแบบนี้อีก
พ.ต.อ.อำนาจ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายอู๋ จัว หมิงให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยรู้จักกับผู้ตายเรื่องจากทำธุรกิจขายเสื้อผ้าด้วยกัน โดยที่ที่เดินทางมานั้น ตั้งใจมายืมเงินจำนวน 100,000 บาท โดยใช้อุบายบอกผู้ตายว่าจะนำเงินมาคืนจำนวน 120,000 บาท ที่เคยยืมไปแล้ว แต่สุดท้ายนายอู๋ จัว หมิงก็กลับมายืมเงิน แต่ผู้ตายไม่ยอมให้ยืมจึงได้มีการปะทะอละมีปากเสียงกัน นายอู๋ จัว หมิง จึงได้ใช้มือบีบคอผู้ตายจนแน่นิ่งได้ ซึ่งได้ไม่คิดว่าผู้ตายจะเสียชีวิต นายอู๋ จัว หมิง จึงไอ้ทำการปลดทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต และขึ้นรถหลบหนีไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งสายใต้ เพื่อต้องการหลบหนีออกนอกประเทศโดยใช้เส้นทางทะเล สำหรับเหตุผลที่นายอู๋ จัว หมิง เลือกหลบหนีไปยังเกาะสมุยเพราะว่าเคยพักอาศัยและทางเดินไปที่เกาะสมุยบ่อยจึงชำนาญเส้นทาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ขอให้ทางครอบครัวสบายใจตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรม เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และ “ข้อหาลักทรัพย์” และจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้