เฟดเผยสัญญาณเศรษฐกิจขาลงสหรัฐ

เฟดเผยสัญญาณเศรษฐกิจขาลงสหรัฐ

เฟดนิวยอร์กเผยเค้าลางเศรษฐกิจสหรัฐขาลง ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปลายปี 2561 การขอบัตรเครดิตลดลง หนี้เพืื่อการศึกษายังคงสูง และผู้กู้ความเสี่่ยงสูงก็ยังนิยมขอสินเชื่อรถยนต์

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างถึงรายงานหนี้สินและสินเชื่อภาคครัวเรือน ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (12 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น พบว่า หนี้โดยรวมที่ชาวอเมริกันแบกรับเมื่อไตรมาส 4 ของปี 2561 ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 ที่ตอนนั้นปริมาณหนี้ต่ำสุดหลังเศรษฐกิจถดถอยครั้งล่าสุด

แม้หนี้จดจำนองที่ตอนนี้ถือเป็นสัดส่วนใหญ่สุด จะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี แต่หนี้สินรูปแบบอื่นเพิ่มขึ้น รวมถึงหนี้บัตรเครดิต อยู่ที่ 8.7 แสนล้านดอลลาร์ เท่ากับช่วงสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติปี 2551

ในสหรัฐที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1ของโลก การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคคิดเป็น 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจ และคาดว่ายังคงแข็งแกร่งต่อไปในปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวช้าลงจากที่เคยร้อนแรงในปี 2561 แต่สัญญาณหนึ่งของความต้องการผู้บริโภคอย่างการขอบัตรเครดิตลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

อีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการซบเซาเห็นได้จากการปิดบัญชีบัตรเครดิตและบัญชีธนาคารอื่นๆ ที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่การผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นจาก 4.8% ในไตรมาส 3 มาอยู่ที่ 5% ในไตรมาส 4 ถือเป็นสัญญาณเตือนที่นักเศรษฐศาสตร์จะมองข้ามไม่ได้

ขณะเดียวกัน  หนี้เพื่อการศึกษาพุ่งสูงในไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ในอัตรา 9.1% ของหนี้รวม 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สินเชื่อรถยนต์ก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555 เช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยรวม 1.3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปี 2561 ถือเป็นปีที่ผู้คนกู้ยืมสินเชื่อรถยนต์มากที่สุด อย่างน้อยๆ ก็ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา

ปีที่แล้ว  เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง แต่ตอนนี้กำลังรอดูสถานการณ์ว่าจะใช้นโยบายตึงตัวต่อไปหรือไม่ ในเมื่อเศรษฐกิจโลกซบเซา เศรษฐกิจสหรัฐก็ดูท่าชะตัว

ด้านกระทรวงการคลังรายงานว่า แม้เศรษฐกิจประเทศแข็งแกร่งแต่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ยอดรวมเมื่อวันที่ 11 ก.พ.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 22 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังต้องการงบประมาณมาทำกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินรวมทั้งนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟดต่างเตือนถึงอันตรายหากสหรัฐขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก