เลขากกต. ย้ำชัดชงศาลรธน.ยุบ "ทษช" เหตุปรากฎหลักฐานชัด ส่วนกรณี "พปชร" มีแค่คำร้องจึงต้องหาหลักฐานก่อน เปรียบเทียบกันไม่ได้ คาดเสนอคำร้องพปชร.ให้กกต.พิจารณา 1-2 สัปดาห์นี้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีหากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรคจะต้องมีการแก้ไขบัตรเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ถ้าผู้สมัครไม่ว่าพรรคใด ไม่ถูกประกาศรับรองเป็นผู้สมัครหรือถูกตัดสิทธิ์ กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าผู้สมัครในเขตนั้นๆ เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์รับสมัครรับเลือกตั้ง ใครกาบัตรก็จะกลายเป็นบัตรเสีย และอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีการนำเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ยังคงใช้บัตรเลือกตั้งอยู่เช่นเดิม
เมื่อถามว่า พรรคไทยรักษาชาติได้ส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กกต.จะต้องมีคำชี้แจงอะไรเพิ่มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งมีนัดพิจารณาในวันที่ 27 ก.พ.นี้
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยอยากจะชี้แจงขั้นตอนการพิจารณาของ กกต.คืออำนาจของกกต.เมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าสามารถส่งให้ศาลพิจารณาได้เลย ซึ่งกรณีที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพราะปรากฏหลักฐานให้กกต.เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
“ส่วนกรณียื่นคำร้องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือให้กกต.นั้น ยังไม่ปรากฏหลักฐาน ปรากฏแต่คำร้อง จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมให้กกต.พิจารณา ต้องเข้าใจว่าหลักฐานและคำร้องแตกต่างกัน ผมอยากอธิบายเรื่องกระบวนการให้เข้าใจเพราะมีการเปรียบเทียบว่าร้องแล้วทำไม่ไม่ยุบเลย อันนี้ทำไมยุบเลย คาดว่าคำร้องของพลังประชารัฐจะเสนอให้กกต.ได้เร็วๆนี้ภายใน 1-2 สัปดาห์ “พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
เมื่อถามว่า นิยามคำว่าปฏิปักษ์ของกกต.เป็นอย่างไร พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า รายละเอียดอยู่ที่ศาล ขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น
เมื่อถามถึง กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กระทำผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาอยู่ ถ้าศาลตัดสินค่อยมาว่ากันอีกครั้ง เพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร เมื่อถามย้ำว่า เมื่อนายธนาธรถูกฝากขังจะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า หากถูกฝากขัง จำคุกโดยหมายของศาล ก็คงต้องไปดูในข้อกฎหมายก่อน
เมื่อถามถึง กรณีที่กกต.ตรวจสอบพบการแก้ไขข้อมูลผู้สมัครของบางพรรคการเมืองเพื่อให้มีคุณสมบัติลงสมัคร จะนำไปสู่การให้ใบส้มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่มองถึงขนาดนั้น ในชั้นนี้เราทำข้อมูลจากฐานข้อมูลของกกต.เกี่ยวกับนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อให้จังหวัดไปแถลงต่อศาลจังหวัดที่ทำหน้าที่แทนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งว่าเหตุที่เราตัดสิทธิ์ไม่ประกาศชื่อของผู้สมัคร เพราะมีการไปแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงระหว่างนายทะเบียนสมาชิกของพรรคกับฐานข้อมูลของกกต. เช่น ถ้าจะกรอกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองจะมีพาสเวิร์ดที่ให้ไว้กับนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เมื่อกรอกแล้วมีการไปแก้ไขในบางส่วนหลังจากปิดให้แก้ไขแล้ว หลังจากนี้จะมีความผิดทางอาญาหรือไม่จะเป็นขั้นตอนถัดไปที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง