โฆษก ทอ. ชี้แจง เหตุ "ซี.130" เครื่องยนต์ขัดข้องกลางอากาศ นักบินตัดสินใจบินกลับดอนเมือง เพื่อเซฟชีวิตผู้โดยสารวีไอพี. เผยเครื่องบินเข้าประจำการเกือบ 40 ปี มีภารกิจมากเกือบทุกวัน
พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวชี้แจงถึงกรณีเครื่องบินลำเลียงแบบ ซี-130 ของกองทัพอากาศเครื่องยนต์ขัดข้องระหว่างนำคณะพล.อ.ประยุทธ์ จันทรฺโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เดินทางไปตรวจราชการที่จ.สุราษฎร์ธานีและจ.กระบี่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เครื่องบิน ซี.-130 เลขที่ 60109 ของกองทัพอากาศ ออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 โดยมีภารกิจเดินทางไปยังทาอากาศยานนานาชาติสมุย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งระหว่างบินขึ้นไปได้ 15 นาที นักบินได้ตรวจพบว่ารอบความเร็วของเครื่องยนต์ที่ 2 เกิดอาการสวิงส่ายไปส่ายมาเกิดเกณฑ์ไม่สามารถคอนโทรลเครื่องยนต์ได้ จึงต้องดับเครื่องยนต์กลางอากาศตัดสินใจบินกลับมาลงที่ท่าอากาศยานทหาร 2 เพราะเกิดเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์
พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่ามีคนถามกันมากว่าทำไมนักบินไม่นำเครื่องบินไปลงที่สนามบินเกาะสมุย และทำการแก้ไขเครื่องยนต์ เรื่องนี้ต้องขอชี้แจงว่ากองทัพอากาศไม่มีช่างเครื่องยนต์ที่สนามบินดังกล่าว รวมถึงนักบินไม่สามารถทำการบินด้วยเครื่องยนต์ 3 เครื่องที่เหลือจากสนามบินสมุยได้ เพราะไม่ปลอดภัยด้วยกฎระเบียบของสนามบินนานาชาติ หากสภาพเครื่องยนต์ขาดความพร้อมห้ามไม่ให้ทำการบินขึ้นจากสนามโดยเด็ดขาดและเพื่อให้เกิดความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ของนักบินถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนปกติของการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องทำตามขั้นตอนคือการบินกลับมาดอนเมืองเท่านั้น
พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.อ.ชัยพฤษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. ได้รับรายการแล้วซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่อย่างไรก็ตามต้องชื่นชมนักบินที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกของผู้โดยสารระดับวีไอพี
ดังนั้นเป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการตัดสินใจของนักบินกองทัพอากาศ ทั้งนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าภารกิจของเครื่องบินซี.130 ลำดังกล่าวได้รับการตรวจเช็คบำรุงรักษาตามวงรอบตลอดเวลาแต่เนื่องจากมีอายุการใช้งานมาเกือบ 40 ปีซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวบรรจุเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2523 จึงมีโอกาสที่จะเกิดเครื่องยนต์ขัดข้องได้