'พลังประชารัฐ' อัดแคมเปญโดนใจ ค่าทำนาไร่ละ 3,500 บาท

บรรยากาศการหาเสียงของบรรดาผู้สมัครผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เริ่มที่จะคึกคักเพิ่มมากขึ้นทุกวัน อย่างเช่นที่เขต 8 อำเภอราษีไศล, ยางชุมน้อย, ศิลาลาด, โพธิ์ศรีสุวรรณ และบึงบูรฬ   

 ได้มีบรรดาผู้สมัคร นำป้ายหาเสียงไปติดไว้ตามริมถนนกันแทบที่จะไม่มีพื้นที่ว่าง ในตามสี่แยก สามแยก สองแยก จุดที่จะมีผู้คนผ่านไปมาเป็นจำนวนมากๆ ในแต่ละวัน พร้อม  ๆ กับการเดินหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านกันเลยก็ว่าได้ เดินไหว้ขอคะแนนไม่รู้จักเหนื่อย

 อย่างเช่น ดร.ฤทธา นันทพันธ์ อดีตศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 5 ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินหาเสียงไปตามหมู่บ้าน ภายหลังจากที่ไหว้ขอพรจากพระธาตุศรีดา ของชาวบ้านด่าน ตำบลด่าน อำเภอราษีไศล ที่เคารพบูชา เชื่อว่าใครเดือนร้อนอะไรเมื่อมากราบไหว้ขอพรก็ได้ดั่งประสงค์ รูปร่างขององค์พระธาตุคล้ายกับ พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

 

  โดยขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.เดินหาเสียง ก็ได้ชูนโยบายของพรรค ที่มี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน ที่รับเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ออกนโยบายออกมาที่โดนใจชาวนาไทยก็คือ การช่วยเหลือค่าทำนาเริ่มแรก ไร่ละ 1,500.-บาท และภายหลังเก็บเกี่ยวเสร็จ ก็จะช่วยค่าเก็บเกี่ยวอีก ไร่ละ 2,000.-บาท รวมค่าช่วยทำนาเป็นไร่ละ 3,500.-บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เพิ่มจากเดิมที่เคยให้ในปีที่ผ่านมา เพียงค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,500.-บาท ไม่เกิน 12 ไร่ รวมทั้งนโยบาลค่าค่าอุ้มท้อง ค่าคลอดบุตร ค่าเลี้ยงดูบุตร ช่วยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ค่าเช่าบ้าน อื่น ๆ โดยเน้นการสานต่อนโยบายปัจจุบันให้มากและเป็นจริง

 ดร.ฤทธา นันทพันธ์ ผู้สมัครหมายเลข 5 ของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้เท่าที่เดินหาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน จากเดิมที่ทีมเราได้เปิดเวทีย่อยเป็นจุด ๆ ได้แถลงนโยบายของพรรค และวันนี้มีแนวทางการเสนอนโยบายเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจที่จะเลือกไม่ผิดพลาด ในการนำพาพรรคพลังประชารัฐ กลับเข้าไปบริหารประเทศ ไปสานต่อแนวนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีผู้นำคือ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนี้ ที่เป็นผู้นำอย่างแท้จริง นำพาประเทศชาติสงบ ร่มเย็น ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเท่าที่เดินเคาะประตูหาเสียงมา ประชาชนในเขตเลือกตั้งของจังหวัดศรีสะเกษ ต่างชื่นชอบ นิยม นโยบายพรรคพลังประชารัฐ

 

 

                 ดร.ฤทธา  กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะพี่น้องชาวนาอีสาน ในเรื่องรัฐบาลจะช่วยทำนาเริ่มแรก ไร่ละ 1,500.-บาท และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ก็ยังจะมีเงินอุดหนุนมาช่วยค่าเก็บเกี่ยว อีกไร่ละ 2,000.-บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เพิ่มจากเดิมไม่เกิน 12 ไร่ๆ ละ 1,500.-บาทนั้น นอกเหนือจากนโยบายการเพิ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มค่าอุ้มท้อง ค่าคลอดบุตร ค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น ซึ่งแนวนโยบายเหล่านี้ รัฐบาลทำมาแล้ว ทำได้จริง ทำให้ประชาชนชื่นชอบมากในขณะนี้

 

                  ขณะเดียวกัน ในเขต 8 ของจังหวัดศรีสะเกษ ยังมีผู้สมัครคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย นั้นก็คือ อาจารย์ผ่องศรี แซ่จึง ภรรยาของนายปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.เขตนี้ตลอดกาลมายาวนาน แถมยังมี นายวีระชัย จักรวรรณพร หรือ บักเผิ่ง ซึ่งเคยเป็นหัวคะแนนใหญ่ของนายปวีณ แซ่จึง ลงสมัครเป็นคู่แข่ง ในนามของพรรคชาติไทยพัฒนา และยังมี นายจิรเดช ศิลารักษ์ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะอำเภอราษีไศล ลงสมัครในนามของพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครรายอื่น ๆ อีกที่จะต้องมาเฉลี่ยคะแนน จึงเป็นสนามเลือกตั้งของจังหวัดศรีสะเกษ ที่น่าจับตามองอีกสนามหนึ่ง ว่า พลังประชารัฐ จะปลูกนโยบายประชารัฐ ประชานิยม ติดหรือไม่