ปราศรัยใหญ่ 'เพื่อชาติ' ปลุกมวลชนส่ง 'ประยุทธ์' กลับบ้าน
"เพื่อชาติ" เปิดปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง "จตุพร" ปลุกมวลชนเดินเข้าคูหากาเลือกข้างประชาธิปไตย เลือกตั้งรอบนี้แพ้ใครก็แพ้ได้ขออย่าให้แพ้ "สุเทพ" ย้ำ "ทักษิณ" กลับบ้านไม่ได้ แต่ส่ง "ประยุทธ์" กลับบ้านได้แน่นอน
ลานคนเมือง - พรรคเพื่อชาติเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ "ฟื้นประเทศไทย สร้างประชาธิปไตย ก้าวไปด้วยกัน" พร้อมเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ใน 30 เขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และปทุมธานี โดยบรรยากาศเป็นการสลับกันขึ้นปราศรัยของแกนนำพรรค โดยมีมวลชนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ร่วมรับฟัง
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค กล่าวเปิดการปราศรัย โดยตั้งคำถามกับผู้รับฟัง ว่า 5 ปีที่ผ่านมามีความสุขหรือไม่ รวยขึ้นหรือไม่ คนรวยๆขึ้น ขณะที่คนจนๆลง ในปีนี้ประเทศไทยติดอันดับ 1 ของโลก ในด้านความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน เศรษฐีไม่กี่ตระกูลถือครองที่ดินรวมกันเนื้อที่มากกว่า 3 จังหวัด แต่คนจนไม่มีที่จะซุกหัวนอน ดังนั้น อย่ายอมให้เขามาสืบทอดอำนาจ พร้อมยืนยันว่าตนไม่ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ตามที่มีกระแสข่าวลือ
สำหรับนโยบายพรรคเพื่อชาติ จะเสนอนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยหลังเกษียณ 60 ปี จะให้เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ เดือนละ 2,000 บาท ตลอดชีวิต พร้อมยกระดับโรงพยาบาลประจำตำบล ให้มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย มีคุณภาพ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบ 1 ตำบล 1 นักศึกษาแพทย์ รวมถึงนโยบายโฉนดใบเดียวทั้งแผ่นดิน ยกเลิก สปก. นส.2 และ นส.3
ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวโจมตีการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ส่วนการแก้ปัญหาปรองดอง ก็เอาแต่น้องเกี่ยวก้อยมาพูด มาเป็นจุดขาย แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง พรรคเพื่อชาติเป็นพรรคเดียวในประเทศไทย ที่ประกาศจะเป็นเกาะกลาง คือเป็นพื้นที่ในการพูดคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในชาติ ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ขอให้เดินหน้าหาเสียง หลังเลือกตั้งวันที่ 25 มี.ค. ไปเจอกันที่บ้านผู้สมัครทุกเขต เอาผ้าเช็ดหน้ากับปี๊บติดมือไปด้วย ถ้าชนะก็โบกผ้าแสดงความยินดี แต่ถ้าแพ้ให้เอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาแล้วเอาปี๊บคลุมหัวตัวเองเดินกลับบ้าน
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาขอเสียงให้เลือกพรรคเพื่อชาติ เพื่อเอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับบ้าน เราเอานายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านไม่ได้แต่เอาพล.อ.ประยุทธ์กลับบ้านได้แน่ สถานการณ์ปัจจุบันอยากจะสืบทอดอำนาจกันต่อ แต่ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกฯและหัวหน้าคสช. อยู่ในบัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่กฎหมายห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ โค้งสุดท้ายก่อนถึงการเลือกตั้ง ฝ่ายผู้มีอำนาจรู้ดีว่าหากไม่จัดการฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายพลังประชารัฐและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะแพ้ วิธีที่จะทำให้มวลชนของตัวเองกลับมาเลือกก็ต้องบอกว่า เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ให้คนไทยเลือกระหว่างระบอบทักษิณกับประเทศไทย นายทักษิณไม่อยู่ประเทศไทยมา 12 ปีแล้ว วันนี้จึงมีอยู่เรื่องเดียวคือจะเอาหรือไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ อยากจะฟังรายการคืนความสุขต่ออีก 4 ปี 20 ปี หรือจะส่งรายการคืนความสุขกลับบ้านในวันที่ 24 มี.ค.
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 56 พล.อ.ประยุทธ์ชวนทุกฝ่ายไปคุยหาทางออกให้ประเทศ แต่ตัวเองวางแผนจะยึดอำนาจอยู่แล้ว พวกผมถูกจับไปขังอยู่ในบ้านทหารชั้นประทวนอยู่ 3 วัน 5 ปีที่ผ่านมา แต่ละฝ่ายถูกชวนไปคุยเรื่องการปรองดองแต่ความคิดเห็นและข้อเสนอทั้งหมดถูกเก็บใส่ลิ้นชัก วันนี้จะมีการเลือกตั้งมาบอกจะแก้ไขความขัดแย้งแล้ว 5 ที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ บริหารให้คนจนกันทั้งชาติ แล้วทำบัตรคนจนเพื่อให้ลืมไปว่าจนเพราะเผด็จการ ภารกิจของพรรคเพื่อชาติคือทำให้คนไทยหายจน ไม่ใช่แจกบัตรคนจน 300-500 บาท
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การมัดมือชกผ่านรัฐธรรมนูญ ทำให้เราต้องมาเจอวิบาก 250 ส.ว. ซึ่งผู้สรรหาคือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดย ส.ว. 244 คน มาจากการแต่งตั้ง ส่วนอีก 6 คนมาโดยตำแหน่ง คนพวกนี้ก็ต้องโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ ส.ว.มีสิทธิโหวต 5 ปี เท่ากับ 2 สมัย 8 ปี ยุทธศาสตร์ 20 ปี ก็เหมือนกับ 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะแน่นอน แต่บัตรเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวเดินไปไกลได้แค่ 175 เสียง เป้าหมายของเราอยู่ที่ 376 ที่นั่ง ดังนั้นพื้นที่ไหนมีพรรคเพื่อชาติก็ขอให้เลือก พื้นที่ไหนไม่มีขอให้เลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ท่วมท้น ไม่ต้องกลัวความวุ่นวายใดๆ การเลือกพรรคเพื่อชาติไม่ใช่การตัดคะแนนกัน แต่เป็นการเพิ่มคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าไม่ทำเช่นนี้จะต้องเจอพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรทุกวัน เราร่วมเป็นร่วมตายกันมา 10 กว่าปี เลือกตั้งรอบนี้แพ้ใครก็แพ้ได้ แต่อย่าแพ้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสุเทพปลุกมวลชนของตัวเองได้ ตนก็ปลุกมวลชนได้เช่นกัน ขอให้ใช้ปากกาฆ่าเผด็จการ เช็คบิลสมุนเผด็จการ สร้างประชาธิปไตยให้แข็งแรง
"ผมติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง เหลือจ่ออยู่อีก 6 คดี วันนี้ต้องการเพียงแค่ส่งต่อประชาธิปไตยให้ลูกหลาน วันที่ 24 มี.ค. ถามหัวใจตัวเองว่า พร้อมจะปลดแอกเผด็จการหรือไม่ พี่น้อง ไม่ต้องออกมาชุมนุม เดินเข้าคูหาอย่างสงบแล้วกาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย" นายจตุพรกล่าว