อดีตรมต.เพื่อไทย แนะจับตา 'ส.ส.ขายตัว' หลังเลือกตั้ง

วานนี้ (6มี.ค.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 2 เขต 3 จ.เลย กล่าวว่า ตนเป็นอดีต ส.ส.เลย 13 สมัยมากที่สุดของ ส.ส.จ.เลย อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาคราวนี้ตนและทีมงานพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ต้องย้ายพรรคมาสวมเสื้อ "พรรคพลังประชารัฐ" ช่วงนี้ตนได้เดนเคาะประตูหาเสียงพร้อมกับเปิดเวทีปราศรัย 2 จุด/ตำบล ในเขต อ.เชียงคาน ก่อน แต่ละแห่งมีประชาชนผู้สนใจมารับฟังรวมทั้งแสดงความคิดเห็น 1,000-1,700 คน

โดยเดินทางอันยาวไกลต่อเนื่อง พร้อมชูนโยบายสำคัญของทางพรรคฯ คือ เรื่องบัตรสวัสดิการคนจน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ และเกษตรประชารัฐ โดยจะมีการวางระบบการทำการเกษตรใหม่ตั้งแต่ระบบการผลิต การพัฒนาคุณภาพและการตลาด เพื่อแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เหตุที่เลือกมาทำงานกับ พปชร. เพราะนโยบายตอบโจทย์ มีการระดมสมองคนรุ่นใหม่ จึงมั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติบอบช้ำมากว่า10 ปี เมื่อเกิดปัญหาเดินขบวนเรียกร้องต่างๆ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศอยู่ไม่ได้ และประชาชนเดือดร้อน ตนเล่นการเมืองมากว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นความแตกแยกแบบนี้ สามี ภรรยา และลูก อยู่กันคนละสี จึงตัดสินใจหลังจากคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาร่วมงานกับพรรคนี้

"มั่นใจว่าวันนี้ประชาชนฉลาดที่จะตัดสินใจได้ว่าพรรคไหนนำนโยบายไปสู่ประชาชน สามารถเปลี่ยนแปลงแนวความคิดประชาชนระดับก่อนและชนชั้นกลาง ทั้งนี้ผมได้รับผิดชอบให้ดูแลพื้นที่ 5 จ. ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ และหนองคาย รวม ส.ส. ทั้งหมดจำนวน 19 คน ไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน โดยเฉพาะ จ.เลย เชื่อว่าจะได้รับการรับเลือกจากประชาชนยกทีมทั้ง 3 เขต และไม่กังวลว่าพื้นที่ภาคอีสานจะไม่เอาทหาร เพราะพรรคขับเคลื่อนด้วยนโยบายเป็นหลัก" นายปรีชา กล่าว

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข กล่าวปราศรัยอีกว่า ครั้งนี้ตนสู้เต็มที่ด้วยลำแข้ง ขอชูนโยบายพักหนี้ กองทุนหมู่บ้านเติมทุนช่วยฟื้นฟู ด้านสวัสดิการประชารัฐถ้วนหน้า 44 สวัสดิการจาก 14 หน่วยงานรัฐ อยู่ในในบัตรประชารัฐใบเดียว การถูกโจมตีว่า "ปรีชาและทีมงานขายตัว" ขอบอกกับพี่น้องได้ว่า การที่ผู้ใดได้รับเลือกตั้งสวมชุดสูทเข้าสู่สภาฯและมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และย้ายพรรคเพื่อขอเข้าร่วมรัฐบาล นี่ซิจึงจะเรียนว่า "ขายตัว" แต่ไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า "ห้ามย้ายพรรคหลังยุบสภา"

นายปรีชา กล่าวปราศรัยอีกว่า เช่นนี้แล้วจะมากล่าวโจมตีตนต่างๆนานาว่าเป็นคนขายตัวได้อย่างไร ที่ผ่านมามีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ติดคุก 2 คน เห็นไหมล่ะ การนำนโยบายมาแจ้งกับพี่น้องก็ล้วนแต่สิ่งดีและสามารถทำได้และรัฐบาลชุดนี้ก็ทำแล้วและจะทำต่อไปอีกให้ดีขึ้น ตนเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนมาตลอดการเป็นนักการเมืองเพราะประชาชน คือ เจ้าของประเทศ จากการเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ถึงดึกทุกวัน ทำให้ทราบถึงปัญหา ความเดือดร้อน ความต้องการของพี่น่องมากและลึกๆแบบตัวต่อตัวใกล้ชิดเป็นกันเอง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับด้วยดีทุกแห่งทุกพื้นที่ จึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถนำพาตนเองเข้าสู่สภาได้เพื่อสานงานต่อที่เคยบริหารสร้างงานใหม่ และร่วมพัฒนา แก้ไขปัญหาของประเทศ