ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือ คตง. วางกรอบยกระดับงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ป้องกันปัญหาซ้ำซ้อน พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมเพิ่มประสิทธิภาพเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 หน่วย
ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ประชุมร่วมกันถึงแนวทางความร่วมมือในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายังทั้งสององค์กร ไม่ว่าจะเป็นกรณีความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม กรณีปัญหาการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน กรณีการร่วมมือและช่วยเหลือกันในการติดตามข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย ตามข้อเสนอแนะของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และกรณีข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมถึงการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลซึ่งกันและกัน ที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานให้สะดวกรวดเร็วและเป็นรูปธรรม และไม่ซ้ำซ้อนกัน
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ร่วมกันกำหนดแนวทางปฏิบัติงาน ดังนี้ 1 กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องร้องเรียนโดยมีทั้งประเด็นความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรม และประเด็นการใช้จ่ายเงินแผ่นดินที่ชัดเจนตามคำร้องเรียนไว้แล้ว และจากการประสานงานในภายหลังพบว่าคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนในประเด็นการใช้จ่ายเงินแผ่นดินไว้แล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา37(4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 สำหรับในประเด็นความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมนั้น เป็นหน้าที่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องขจัดหรือระงับความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมต่อไปตามมาตรา 22 และมาตรา 33 ต่อไป
2 กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องร้องเรียนไว้ดำเนินการแล้ว และจากการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานของรัฐ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวินัยการเงินการคลังหรือเป็นการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 36 (3) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560
3 กรณีผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้เสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยรับตรวจให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับแล้ว แต่หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยรับตรวจไม่ปฏิบัติตามและประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับความไม่เป็นธรรมอยู่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินช่วยเหลือติดตามและเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับดังกล่าว ตามหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 33 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560
4 หากมีกรณีปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของทั้งสององค์กร ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินอาจปรึกษาหารือดำเนินการตรวจสอบ และแสวงหาข้อเท็จจริงตามหน้าที่และอำนาจร่วมกัน เพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยรับตรวจให้ขจัดหรือระงับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม รวมถึงให้หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยรับตรวจดำเนินการให้ถูกต้อง เกิดผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินแผ่นดินต่อไป
5 การเปิดเผยข้อมูลเรื่องร้องเรียนระหว่างกันในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นเพียงการเปิดเผยข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้วยกันเท่านั้น โดยจะมีการจำกัดประเภทของข้อมูลที่เปิดเผยได้และจะต้องสอบถามเฉพาะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินการเรื่องร้องเรียนเท่านั้น พร้อมทั้งจัดทำแบบฟอร์ม หรือวิธีการติดต่อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และ 6 การเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูล ให้จัดทำศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบข้อมูลระหว่างกันและเป็นช่องทางรับ- ส่งข้อมูลที่สะดวกและรวดเร็วเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เห็นเป็นรูปธรรม