สธ.รับมอบรถบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ แบบ One Stop Service คันแรกของภาคใต้
สธ.รับมอบรถบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ แบบ One Stop Service คันแรกของภาคใต้
วันนี้ (22 มีนาคม 2562) ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบรถบริจาคโลหิตเคลื่อนที่มูลนิธิฟุง (Fung Foundation) และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ว่า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดให้บริการทางการแพทย์ระดับสูง ให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยว โดยมีผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 2,200 ราย ผู้ป่วยในเฉลี่ยวันละ 600 ราย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์หลายสาขา ได้แก่ โรคหัวใจ มะเร็ง อุบัติเหตุ กระดูกและข้อ ทารกแรกเกิด และยังเปิดให้บริการศูนย์หัวใจอันดามันและห้องผ่าตัดไฮบริด จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาโลหิตให้เพียงพอต่อความต้องการในการรักษาและผ่าตัด ทั้งนี้ ในปี 2562 คาดประมาณความต้องการใช้โลหิตสูงถึง 25,000 ยูนิต ในปีที่ผ่านมาจัดหาโลหิตสำรองได้เพียง 19,000 ยูนิต จากการรับบริจาคในโรงพยาบาล 13,000 ยูนิต การออกหน่วยเคลื่อนที่ 6,000 ยูนิต ทำให้เกิดปัญหาโลหิต
ขาดแคลน
นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า รถบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ให้บริการแบบ One Stop Service Blood Mobile คันนี้ เป็นคันแรกของภาคใต้ มีเตียงบริจาค 10 เตียง มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน มีจุดคัดกรอง เจาะเลือด และที่พักผ่อนภายในรถ ทำให้การออกหน่วยรับบริจาคมีความคล่องตัว พร้อมให้บริการทันที ลดเวลารอคอยในการเตรียมหน่วยเคลื่อนที่ อีกทั้งยังติดตั้งตู้เย็นเก็บโลหิตได้ประมาณ 60 ยูนิต ทำให้ควบคุมคุณภาพโลหิตได้ดีขึ้น สามารถเพิ่มความถี่ในการออกหน่วย และมีระบบเทเลเมดิซีน (Telemedicine) สามารถส่งสัญญาณชีพของผู้บริจาคโลหิตที่มีอาการหน้ามืดหรือเป็นลม ไปยังศูนย์สั่งการที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตอัตโนมัติ เพื่อประเมินอาการและส่งรถฉุกเฉินมารับผู้บริจาคได้ทันท่วงที
“ต้องขอบคุณมูลนิธิฟุง และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ได้สนับสนุนเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อรถบริจาคโลหิตคันนี้พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งช่วยให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตสามารถจัดหาโลหิตสำรองได้เพียงพอต่อความต้องการสำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วย และขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงพยาบาลเพื่อจะได้พัฒนาศักยภาพไปสู่ความเป็นเลิศในการดูแลรักษาและเป็นที่พึ่งทางสุขภาพของพี่น้องชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายแพทย์สุขุมกล่าว