กทม.ขู่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ โดนเด้งหากปล่อยหาบเร่เกลื่อน
กทม.ขู่ย้ายหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ หากปล่อยหาบเร่เกลื่อน เผยเขตบางรักชาวบ้านร้องมายังผู้ว่าฯหลายครั้ง
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.62 ที่สำนักเทศกิจ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมแนวดิ่งสำนักเทศกิจ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมีนายสมภาคย์ สุขอนันต์ รองปลัดกทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 เขต เข้าร่วมประชุม
นายสกลธี กล่าวในที่ประชุมว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะเกิดขึ้นขอให้ทุกสำนักงานเขตให้การสนับสนุน จัดทำแผน วางแผนการใช้กำลังให้ดี และปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ให้สมพระเกียรติ นอกจากนี้ ขอให้หัวหน้าฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขตกำชับเจ้าหน้าที่ต้องให้ความสำคัญการถือปฏิบัติตามระเบียบประจำวัน เพื่อรักษาวินัยข้าราชการ ป้องปรามไม่ให้เจ้าหน้าที่กระทำผิด อีกทั้งส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่เทศกิจมีบุคลิกภาพที่ดี เสริมสร้างภาพลักษณ์ของเทศกิจในสายตาของประชาชน รวมถึงวินัยในการปฏิบัติหน้าที่ การอยู่ปฏิบัติหน้าที่ และการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ การวางตัวที่เหมาะสม เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา หากมีผู้หนึ่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาต้องมีการลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง
นายสกลธี กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ซึ่งสำนักเทศกิจได้ขออนุมัติขยายเวลาแผนปฏิบัติการการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ออกไป อีกระยะหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.60 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.62โดยมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกจุดผ่อนผันที่มีอยู่จำนวน 232 จุด ผลการดำเนินการในช่วงขยายเวลาปฏิบัติการฯ กรุงเทพมหานครได้มีประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันเพิ่มขึ้น จำนวน 52 จุด ปัจจุบันจึงมีจุดผ่อนผันที่ยกเลิกแล้ว จำนวน 503 จุด และมีจุดผ่อนผันที่ยังไม่ยกเลิก จำนวน 180 จุด อยู่ในพื้นที่ 20 สำนักงานเขต จึงขอให้สำนักงานเขตที่มีจุดผ่อนผันเหลืออยู่ในพื้นที่เร่งรัดดำเนินการยกเลิกจุดผ่อนผันตามแผนปฏิบัติการฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.62 ส่วนจุดผ่อนผันที่ยกเลิกแล้วให้ทุกสำนักงานเขตตรวจตรากวดขันห้ามผู้ค้ากลับมาทำการค้าอีกโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามในระยะนี้พบว่าหลายเขตปล่อยปละละเลยให้มีการตั้งวางแผงค้า โดยเฉพาะเขตบางรัก ซึ่งมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯกทม.หลายครั้งแล้ว ดังนั้น จึงได้แจ้งในที่ประชุมว่าหากพบว่ามีการปล่อยปละละเลย จะสั่งย้ายหัวหน้าฝ่ายเทศกิจในพื้นนั้นๆ ออกจากพื้นที่ทันที
สำหรับการดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.61 - 20 มี.ค.62 ผลดำเนินการสามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนจำนวน 14,043 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 3,984 ราย ปรับเป็นเงิน 7,654,800 บาทโดยระหว่างวันที่ 1-20 มี.ค.62 จับกุมผู้ฝ่าฝืน จำนวน 955 ราย ว่ากล่าวตักเตือน19 ราย ปรับเป็นเงิน 715,000 บาท
ส่วนการกวดขันการติดตั้งป้ายโฆษณาในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.61 - 20 มี.ค.62 จัดเก็บได้ จำนวน 83,916 ป้าย ปรับเป็นเงิน 5,476,300 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-20 มี.ค.62 จัดเก็บ 3,652 ป้าย ปรับเป็นเงิน 422,100 บาท โดยมีป้ายหาเสียงที่ติดตั้งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จำนวน 768 ป้าย