'ผบช.ตชด.' แถลงไตรมาสแรกปี 62 สกัดจับยาบ้าไปแล้ว 61 ล้านเม็ด
“พล.ต.ท.สมพงษ์” แถลงสกัดจับยาบ้า 61 ล้านเม็ดช่วงต้นปี 62 ระบุพร้อมระดม ตชด. 64 กองร้อย ช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหาภัยแล้ง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 มีนาคม 2562 ที่ห้องสโมสรตำรวจตระเวนชายแดน 101 อาคารจุลละพราหมณ์ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตชด. พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2562 ไตรมาส 1-2 ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยสามารถสกัดกั้นยาบ้ากว่า 61 ล้านเม็ด และ กัญชาแห้งกว่า 12,000 กิโลกรัม ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ พร้อมเตรียมจัด 64 กองร้อยจาก 80 หน่วย ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจตระเวณชายแดนได้เตรียมกำลังกว่า 64 กองร้อย จาก 80 หน่วยทั่วประเทศ คอยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยได้จัดรถน้ำไปแจกจ่าย โดยได้เริ่มดำเนินการเมื่อต้นมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนปัญหาเรื่องหมอกควันไฟได้จัดหน่วยเคลื่อนเร็ว เข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการเข้าไปดับไฟป่าตามพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับแจ้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ทุกพื้นที่ รวมแล้วมากกว่า 200 คน ซึ่งในอนาคตจะเน้นปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติด และความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยได้มีการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดนของประเทศไทย มีการทำงาน 3 ด้าน คือ ด้านการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน ด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และด้านการพัฒนาและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วย กองบังคับการปฏิบัติการจำนวน 4 กองบังคับการ 16 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน และ 64 กองร้อยปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังมีกองบังคับการฝึกพิเศษ ที่ทำหน้าที่ในการหล่อหลอมและสร้างบุคลากรให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานทั้งในส่วนของตำรวจตระเวนชายแดนและสนับสนุนให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ เป็นหน่วยที่ได้รับการยอมรับในด้านความพร้อมในด้านการปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ และที่สำคัญ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนยังได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกด้วย
ทั้งนี้ การปฏิบัติงานห้วงที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2562 หน่วยได้มีการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในเรื่องการป้องกันรักษาสถานการณ์ชายแดน ได้มีการจัดกำลังปฏิบัติภารกิจประจำฐานปฏิบัติการและจุดตรวจตามแนวชายแดน จำนวนทั้งสิ้น 223 ฐานปฏิบัติการ และลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยมุ่งเน้นการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงที่อาจทำให้ส่งผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตอนในของประเทศ ได้แก่ การสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การกระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ การโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงครามและวัตถุระเบิด การลักลอบสินค้าหลบหนีภาษีศุลกากร โดยเฉพาะการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในห้วงที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนทำการตรวจยึดของกลางคดียาเสพติดจำแนกตามของกลาง เป็นอันดับหนึ่งในส่วนของหน่วยสนับสนุนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถจับกุมยาบ้าได้กว่า 61 ล้านเม็ด กัญชาแห้งกว่า 12,000 กิโลกรัม
ในส่วนของการพัฒนาช่วยเหลือประชาชนและการบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่รับผิดชอบ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนมีการพัฒนาขีดความสามารถและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยผลการปฏิบัติงานที่โดดเด่นในห้วงที่ผ่านมาได้แก่ การเข้าให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ช่วยให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การบรรเทาความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของพายุโซนร้อน “ปาบึก” รวมถึงการเข้าฟื้นฟูและสร้างบ้านให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” จำนวน 7 หลัง ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้ส่งมอบบ้านให้กับประชาชนไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งการช่วยเหลือประชาชน ตำรวจตระเวนชายแดนได้ปฏิบัติการอย่างเต็มกำลังความสามารถ สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ทั้งในขั้นเตรียมการ การช่วยเหลือและการฟื้นฟู จนได้รับการยอมรับและชื่นชมจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ เป็นที่พึ่งให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อน และในหลายพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้มีสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด สำรวจทุกพื้นที่ที่รับผิดชอบที่เกิดภัยแล้งเป็นประจำ พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังพล ยานพาหนะ(รถบรรทุกน้ำ) เครื่องมือ อุปกรณ์ พร้อมเข้าให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งการขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ การได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนในบางพื้นที่ การเฝ้าระวังการเผาป่า หรือการเกิดไฟป่า เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง รวมถึงการบูรณาการร่วมกันในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชนในการปฏิบัติภารกิจของ “จิตอาสาภัยพิบัติ” เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์และแนวทางในการดำเนินการตามโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนยังริเริ่มโครงการใหม่ๆ เพื่อให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน เช่น การเปิดกองร้อย – ฐานปฏิบัติการ บริการนักท่องเที่ยวตามโครงการ “ร้อยเต้นท์ ร้อยรัก ที่พักฟรี สวัสดีปีใหม่ 2562” โดยให้บริการเต็นท์ฟรีเพื่อพักแรมในกองร้อย ฐานปฏิบัติการ และ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญฉลองเคาท์ดาวน์ ขึ้นปีใหม่ 2562 เพื่ออำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาด้านที่พักให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงเป็นการให้พี่น้องประชาชนฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย และยังได้เปิดโครงการ “ตชด. เปิดค่ายร้อยรัก พักผ่อนริมหาดฟรี” ณ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ให้พี่น้องประชาชนมาพักผ่อนริมหาดในค่ายพระรามหก โดย กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้จัดเตรียมเก้าอี้ผ้าใบไว้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีบริการอาหารในราคาถูก และพี่น้องประชาชนยังสามารถท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ป่าชายเลน การเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รวมถึงการทดสอบกำลังใจโดยการใช้บริการ โดดหอสูง ซึ่งได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง การเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารและสำรวจพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน คนพิการ ผู้สูงอายุ ที่ต้องการใช้รถวีลแชร์ แต่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารและการขอรับบริการ โดย กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้รับมอบวีลแชร์จากภาคเอกชน จำนวน 59 คัน เพื่อส่งมอบต่อให้แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารให้มีโอกาสได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การทัศนศึกษาในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นต้น
จากผลการปฏิบัติงานในห้วงไตรมาส 1-2 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้เร่งรัดดำเนินการและระดมกวาดล้างการกระทำผิดในพื้นที่ชายแดนในความรับผิดชอบจนบรรลุตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงการช่วยเหลือบรรเทาภัยในพื้นที่ต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และในการปฏิบัติงานห้วงต่อไป กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตำรวจมืออาชีพที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริงต่อไป