นายกฯประชุมนบข. ขอทำงานต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นายกฯ กล่าวก่อนการประชุม ว่า ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันทำงานมาตลอดก่อนการเลือกตั้ง และหลังจากเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องทำงานเหมือนเดิม พร้อมขอให้รักษาการทำงานอย่างเนื่องในทุกมิติ โดยช่วยกันปรับแก้มาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน
อย่าง็ก็ตามเมื่อเริ่มการประชุมไปได้ประมาณ 40 นาที นายกฯได้เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า และมอบหมายให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมต่อไป

รัฐตั้งเป้าระบายข้าวในสต็อกให้แล้วเสร็จกลาง พ.ค.นี้

ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุม นบข. ว่า ที่ประชุมได้รายงานสต็อกข้าวในบัญชีของรัฐบาล ซึ่งมีอยู่จำนวน 17 ล้านตัน ว่า สามารถระบายข้าวได้จนเหลือเพียง 200,000 ตัน และตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ส่วนข้าวนอกบัญชีอีกประมาณ 5 แสนตัน ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระบายให้แล้วเสร็จพร้อมกัน เพื่อให้โครงการระบายข้าวของรัฐบาลสามารถทำได้เสร็จสิ้นเต็ม 100 % ทั้งนี้หากยังไม่สามารถระบายข้าวหรือตรวจสอบไม่ได้ ให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อไป

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า ขณะที่ภาคการเกษตร มีหลายพื้นที่ปลูกข้าวแล้วและมีปริมาณเกินกว่าที่กำหนดไว้ จำนวน 1,300,000 ไร่ จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ดูแลให้เกษตรกรได้รับความเสียหายน้อยที่สุด แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน จะเน้นย้ำไม่ให้ปลูกข้าวเพิ่มอีก ส่วนนอกเขตชลประทานจะหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมให้เพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำ

“นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแล และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งมีจุดที่น่าเป็นห่วง คือ การประปาส่วนภูมิภาค มีจุดเสี่ยงอยู่ประมาณ 20 หน่วย จึงได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขแล้ว ส่วนพื้นที่นอกเขตการประปา พบว่ามีปัญหาอยู่ 7 จังหวัด ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง เช่น การเติมน้ำผิวดิน น้ำบาดาล การขนน้ำไปช่วยเหลือถึงพื้นที่” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย ไม่ขอแสดงความคิดเห็น โดยเห็นว่าเป็นเรื่องของการเมือง และพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว จึงไม่ขอออกความคิดเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่สาเหตุที่ไม่ได้เป็นประธานการประชุมฯ เมื่อช่วงเช้าจนเสร็จสิ้น เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้มีประเด็นเร่งด่วน เป็นเพียงวาระรับทราบเท่านั้น ประกอบกับนายกรัฐมนตรีมีงานที่ต้องทำอีกจำนวนมาก