นับแล้ว เลือกตั้งใหม่หน่วย 32 เขตบางกะปิ พปชร.เสมอปชป.

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 ทาง กกต. ได้จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 โรงเรียนลำสาลีราษฎร์บำรุง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 13 ของกรุงเทพมหานคร โดยบรรยากาศการเดินทางมาลงคะแนนของประชาชนในช่วงบ่ายก่อนปิดหีบลงคะแนนเวลา 17.00 น. แม้จะมีประชาชนทยอยเดินทางมาเลือกตั้งเรื่อยๆ แต่ก็เป็นไปอย่างบางตา ทั้งนี้ยังมีประชาชนอีกพอสมควรที่เดินทางมาที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 เพราะเข้าใจผิดว่า หากมีสิทธิเลือกตั้งอยู่ที่เขต 13 ก็ต้องมาเลือกตั้งใหม่ที่นี่ จึงทำให้มาเสียเที่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นชุดใหม่ที่เข้ามาประจำการ ก็ได้ทำการชี้แจงข้อสงสัย ความเข้าใจผิดดังกล่าวกับประชาชนแล้ว

​น.ส.วิชชุดา​ เมฆานุวงศ์​ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร​ (กกต.กทม.) ​เปิดเผยว่า สำหรับหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 802 คน สาเหตุที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เพราะจำนวนบัตรลงคะแนนกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ​ไม่ตรงกัน​ โดยครั้งที่แล้วมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิจำนวน​ 555​ คน​ แต่นับบัตรลงคะแนนได้เพียง​ 554 คะแนน​เท่านั้น และยังไม่พบปัญหาในการใช้สิทธิ มีเพียงประชาชนเดินทางมาแต่ไม่ได้ใช้สิทธิ​ เพราะ อาจจะเข้าใจผิดว่า​เป็นการเลือกตั้งใหม่ของเขตเลือกตั้งที่ 13​ แต่ที่จริงแล้ว​ เฉพาะหน่วยเลือกตั้งที่ 32​ ของเขตเลือกตั้งที่ 13​ เฉพาะแขวงหัวหมาก​ เขตบางกะปิ​เท่านั้น

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ ได้เดินทางมาตรวจดูความสงบเรียบร้อย และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวในช่วงบ่ายด้วย​ โดยกล่าวว่า เดินทางมาตรวจเยี่ยม​ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย​ เบื้องต้นยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย​

เมื่อถึงเวลา 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดหีบ ทาง กกต. ก็ได้ทำการแจ้งการปิดหีบเลือกตั้ง แล้วเตรียมการนับคะแนน โดยมี นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์การเลือกตั้งด้วย ก่อนที่จะเริ่มนับคะแนนตอนเวลา 17.05 น. ของหน่วยเลือกตั้งที่ 32​ เขตเลือกตั้งที่ 13​ เฉพาะแขวงหัวหมาก จนเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 18.00 น. ผลการนับคะแนน ปรากฎว่า น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ 96 คะแนน เท่ากับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ 96 คะแนน นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย มาอันดับ 3 ได้ 57คะแนน พรรคอนาคตใหม่ ได้ 44 คะแนน พรรคพลังท้องถิ่นไทย 32 คะแนน พรรคเสรีรวมไทย 21 คะแนน เศรษฐกิจใหม่ 3 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 2 คะแนน พรรคประชาชาติ 2 คะแนน พรรครักพื้นป่าประเทศไทย 1 คะแนน และพรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คะแนน โดยมีจำนวนบัตรเสียทั้งสิ้น 9 ใบไม่ลงคะแนน 6 ใบ รวมแล้วมีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 370 คน ไม่พบปัญหาบัตรเขย่งซ้ำรอยเดิม

โดยผลคะแนนของการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เฉพาะในหน่วยที่ 32 นี้ น.ส. ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนไป 168 คะแนน น.ส. ณิชชา บุญลือ พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 99 คะแนน นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 95 คะแนน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 80 คะแนน

ทั้งนี้ นายเลิศวิโรจน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิพร้อม ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ ขอให้ไปแจ้งเหตุขัดข้องที่สำนักทะเบียน เขตบางกะปิ เพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง พร้อมกล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย แม้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ก็เข้าใจได้เพราะมีเวลาเพียงสัปดาห์เดียวอีกครั้งก็เป็นช่วงวันหยุดยาวแต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ส่วนใหญ่ก็จะมีผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์น้อยลง ครั้งนี้ก็ประมาณ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ก็เป็นที่พอใจของ กกต.สำหรับการจัดการเลือกตั้งได้รับรายงานว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่มีบ้างที่ประชาชนยังเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองต้องมาเลือกตั้งใหม่ และสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้หากไม่มีปัญหาอะไรก็จะนำผลคะแนนที่ได้ไปรวมกับคะแนนจากหน่วยอื่นๆเพื่อเตรียมพร้อมประกาศผลในขั้นต่อๆ ไปซึ่งคาดว่าจะทันในวันที่ 9 พ.ค.

ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคต่างๆ ก็ได้เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์การนับคะแนนเลือกตั้งร่วมกับประชาชนด้วย เช่น น.ส. ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 พรรคอนาคตใหม่ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 พรรคเพื่อไทย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 พรรคประชาธิปัตย์ และนายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือหมอเอ้ก ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์

ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการนับคะแนนเสร็จสิ้นว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ออกมาลงคะแนนให้กับตนและพรรคประชาธิปัตย์ และทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิ์ เพราะเข้าใจว่าการเลือกตั้งใหม่นั้น บางทีภาระหน้าที่ของแต่ละคนก็สูงขึ้นในการออกมาใช้สิทธิ และสิ่งที่ชื่นใจคือประชาชนที่ออกมาใช้สิทธินั้นไม่ได้น้อยลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก ส่วนผลของการเลือกตั้งก็ต้องยอมรับว่าเปลี่ยนแปลงไปจากครั้งที่แล้วมาก เพราะครั้งที่แล้วตนได้อันดับที่สี่ โดยได้คะแนนครึ่งหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐในครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เราได้เท่ากับเขาแล้ว แต่เดิมคะแนนดิบของตนอยู่ที่ 80 คะแนน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96 คะแนน แสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และตนคงไปคาดเดาไม่ได้ว่าเหตุผลตรงนี้มากจากที่ใด แต่สิ่งที่ตนยืนยันไว้เสมอก็คืออุดมการณ์ของตน และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะยึดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย ทั้งหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะนำทั้ง 96 คะแนนนี้ ไปใช้กำหนดทิศทางของพรรคและประเทศต่อไป แม้ผลของการเลือกตั้งนี้จะไม่สามารถทำให้ตนเข้าไปสู่สภาผู้แทนราษฎรได้ก็ตาม

โดยการเลือกตั้งใหม่ที่จัดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 มีการเปลี่ยนแปลงอันดับไปจากเดิมค่อนข้างมากสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขึ้นมาตีเสมอกับทางพรรคพลังประชารัฐที่เป็นอันดับหนึ่งได้ จากเดิมที่ประชาธิปัตย์นั้นอยู่ในอับดับที่สี่ ขณะผู้สมัครจากพรรคอื่นๆที่มาร่วมสังเกตุการณ์ ต่างก็ยอมรับกับผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น แม้ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ จะอยากให้มีการเลือกตั้งใหม่ยกเขต มิใช่แค่เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น