ราชทัณฑ์จับมือสทป. ดันเทคโนโลยีฝังชิปโซ่ตรวน-ซิมูเลเตอร์-ANTI UAV ป้องกันนักโทษหลบหนี-ลอบส่งยาเสพติด-แอบโทรมือถือในเรือนจำ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการบูรณาการผลงานวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรือนจำ
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายพัฒนานวัตกรรมร่วมกับภาคอุตสาหกรรมพันธมิตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual Use Technology) ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทางการทหาร (Military Standard) ซึ่งมีระดับสูงกว่าเทคโนโลยีทั่วไป และมีราคาไม่แพง เช่น การใช้ระบบจีพีเอสฝังชิปในโซ่ตรวน การใช้ระบบซิมูเลเตอร์ตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์ การนำระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (ANTI UAV) มาตรวจจับการใช้โดรนลักลอบขนส่งสิ่งของ ยาเสพติด หรือของต้องห้ามทางอากาศ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการใช้เทคโนโลยีด้านความมั่นคงของกรมราชทัณฑ์ และสามารถพัฒนาต่อยอดให้กับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความต้องการนำระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับไปใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปปรับใช้ในภารกิจการบริหารจัดการหน่วยงานให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์เผชิญกับสภาวะผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ในขณะที่มีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่จำกัด ที่ผ่านมามีปัญหาผู้ต้องขังหลบหนี 11 ครั้ง จึงต้องเร่งแก้ไข โดยการนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาเพื่อใช้ในภารกิจของกรม ซึ่งการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นองค์กรด้านวิจัยและพัฒนาชั้นนำของประเทศ ที่มีผลงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางการทหาร นับว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูง เหมาะสมที่จะนำมาใช้กับภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ในการสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมได้อย่างแท้จริง
ด้านพล.อ.อ.ปรีชา กล่าวว่า ภารกิจหลักของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศคือการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับภารกิจของงานต่างๆ ได้ เช่น การพัฒนาชิปฝังโซ่ตรวนโดยใช้ระบบจีพีเอส ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา เชื่อว่าอนาคตจะเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับภูมิภาค