จำคุก 26 ปี พ่อเลี้ยงเมายาบ้า เด็กร้องไห้รำคาญ จับห่อผ้านอนทับตาย

ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อย.4011/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายวิทวัส หรือกัส จิตธโนปจัย" อายุ 23 ปี ชาวปทุมธานี เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันซ่อน หรือย้ายทำลายศพ , ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 288 , 366/3 และเสพยาเสพติด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91

ตามฟ้อง บรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.61 เวลากลางคืน ประมาณ 21.00 น. ขณะอยู่ห้องพัก จ.ปทุมธานี จำเลยได้จับเด็กทารกชาย วัย 6 เดือน (ลูกเลี้ยง) พลิกคว่ำหน้าลงกับพื้นเตียง แล้วนำผ้าห่ม ห่อคลุมเด็กทารกไว้ก่อนนำหมอนวางทับผ้านวม จากนั้นจำเลยนอนหนุนกดทับร่างเด็กทารกที่อยู่ใต้ผ้าห่ม นาน 30 นาที จนเด็กนั้นถึงแก่ความตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ซึ่งหลังเกิดเหตุ จำเลยกับน.ส.กาญจนา ทศสว่าง มารดาของเด็กทารก ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพทารก โดยนำศพใส่ตะกร้าเสื้อผ้า มีเสื้อผ้าวางปิดบังศพไว้แล้วนำไปทิ้งบริเวณที่ดินรกร้าง ริม ถ.ประชาอุทิศ ซ.รัชดานิเวศน์ แยก 5 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. เพื่อปิดบังการตาย

ซึ่งโจทก์ได้แยกดำเนินคดีกับ น.ส.กาญจนา มารดาของทารกแล้ว ซึ่งวันที่ 9 ก.ย.61 มีพลเมืองดี พบศพเด็กทารกเพศชายถูกทิ้งในตะกร้าปกคลุมด้วยเสื้อผ้าดังกล่าว โดยชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ จำเลยได้เสพ เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ยาเสพติดประเภท 1 ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะแล้วผลออกมาเป็นสีม่วง เหตุเกิดที่ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี , แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง และแขวง-เขตดินแดง กทม.ต่อเนื่องกัน ชั้นพิจารณา จำเลยให้การรับสารภาพ โดยตลอ่วงการถูกดำเนินคดีตั้งแต่ชั้นฝากขังวันที่ 13 ก.ย.61 ไม่มีการขอประกันตัว จำเลยจึงถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฯ ซึ่งวันนี้ศาลเบิกตัวมาจากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบปนะกอบคำสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุจำเลยอยู่กับเด็กทารกเพียง 2 คนในห้องเช่า โดยเด็กทารกร้องไห้เสียงดัง จำเลยเกิดความรำคาญ จึงใช้ผ้าห่มกดทับร่างของเด็กทารกจนเสียชีวิต เมื่อมารดาของเด็กกลับมาจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก่อนจะร่วมกันนำศพไปทิ้ง ย่านที่ดินรกร้าง ริม ถ.ประชาอุทิศ ซ.รัชดานิเวศน์ แยก 5 ซึ่งโจทก์ มี น.ส.กาญจนา มารดาของทารก (ที่ถูกแยกดำเนินคดีร่วมซ่อนเร้นศพ) เบิกความเป็นพยาน สอดคล้องกับคำรับสารภาพของจำเลย จึงเชื่อว่าคำให้การนั้นเป็นความจริง ไม่ใช่เพื่อปัดความผิด ประกอบกับ ผลชันสูตรศพของแพทย์ ระบุว่า เด็กทารก ผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ สอดคล้องกับคำรับสารภาพของจำเลย ซึ่งหากจำเลยไม่ได้กระทำผิด คงไม่ทราบถึงสาเหตุการตาย พยานหลักฐานของโจทก์ จึงมีน้ำหนักมั่นคง ซึ่งการกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

จึงพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่นฯ , ฐานร่วมกันซ่อนเร้นศพ ให้จำคุก 2 ปี และฐานเสพยา ให้จำคุก 6 เดือน โดยจำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งจำคุกไว้ตลอดชีวิตให้เปลี่ยนโทษเป็น 50 ปี ลดโทษแล้วคงจำคุกไว้ 25 ปี , ฐานซ่อนเร้นศพ ให้จำคุก 1 ปี และฐานเสพยา ให้จำคุก 3 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี 3 เดือน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ "น.ส.กาญจนา หรือน้ำ เทศสว่าง" อายุ 23 ปี ชาว กทม. ซึ่งเป็น มารดาของทารกวัย 6 เดือนที่เสียชีวิต ได้ถูกฟ้องแยกเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ในคดีหมายเลขดำ อย.3635/2561 ฐานช่วยให้ผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง , ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นฯ , ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายและโดยไม่มีเหตุอันสมควร , เสพเมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย โดยศาลอาญา มีคำพิพากษาไปแล้ว ให้จำคุก 4 ปีฐานช่วยให้ผู้อื่นได้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหายฯ , ฐานเสพยา จำคุก 6 เดือน ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกไว้ทั้งสิ้น 2 ปี 3 เดือน