แม่ผู้ต้องกักขังคดีเมาขับตายในคุกศรีษะเกษ ร้องยธ.ตั้งคณะกก.กลางสอบเอาผิดจนท.ทุกระดับ-เร่งรัดขอเยียวยา เชื่อลูกถูกทำร้ายร่างกาย
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ นำนางสุรินทร์ เกษหอม มารดานายพรหมปัญญา เกษหอม ผู้ต้องขังคดีเมาแล้วขับที่เสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษเมิ่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความยุติธรรมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายรณรงค์ กล่าวว่า ครอบครัวของผู้ตายได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากกระทรวงยุติธรรมโดยขอให้ตั้งกรรมการจากส่วนกลางร่วมตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริงของนายพรหมปัญญาขอให้เอาผิดเจ้าหน้าที่เรือนจำเกี่ยวข้องทุกระดับชั้นไม่ใช่แค่เพียงผบ.เรือนจำหรือหัวหน้าสถานกักขัง ขอให้มีการเร่งรัดมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเนื่องจากครอบครัวไม่เชื่อว่าผู้ตายหกล้มเสียชีวิต แต่น่าจะเป็นเหยื่อในคดีอาญา และขอให้กระทรวงยุติธรรมตั้งงบประมาณเพื่อช่วยเหลือญาติในการต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากยังมีความกังขาในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายว่า อาจเกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างถูกคุมขังมากกว่า
นายรณรงค์ กล่าวว่า ในทุกช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้เสียชีวิตภายในเรือนจำ โดยเฉพาะผู้ต้องขังเมาแล้วขับที่ไม่มีเงินประกันตัวและต้องถูกคุมขัง จึงอยากให้ทางเรือนจำฯดูแลผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ไม่ใช่ถึงช่วงเทศกาลแต่ละปีจะต้องมีปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนที่ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตข้องใจคือ เหตุใดจึงไม่มีการนำภาพกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ดูว่าในวันเกิดเหตุมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง และใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตาย ส่วนการที่ระบุว่ากรมราชทัณฑ์ได้มีการลงโทษผู้เกี่ยวข้องโดยมีการสั่งย้ายผบ.เรือนจำและเจ้าหน้าที่อื่นๆแล้ว ทางครอบครัวไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งให้รับทราบ
ด้านนางสุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่ครอบครัวข้องใจคือ สาเหตุการตายของบุตรชาย เนื่องจากในวันที่ถูกจับร่างกายไม่ได้มีบาดแผลใดๆ แต่หลังจากทางเรือนจำแจ้งว่านำลูกส่งโรงพยาบาลด้วยอาการสมองบวม และต่อมาได้เสียชีวิตนั้นได้เข้าไปดูสภาพศพและพบว่าร่างกายมีความผิดปกติหลายแห่งทั้งตามลำตัวและใบหน้า ญาติๆจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ทั้งรูปภาพใบหน้าที่มีอาการบวมช้ำ ริมฝีปากฉีก แขน คอ และตามลำตัวมีรอยช้ำ ไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการหกล้มหรือพลัดตกจากที่สูง และเชื่อว่าไม่มีคู่อริที่อยู่ในคุกจนทำให้มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน จึงอยากมาขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายด้วย