ทนไม่ไหว ลูกชายพาแม่ชราวัย 57 ปี โร่แจ้งความตำรวจบางขุนเทียน อ้างถูกสองแม่ลูกปล่อยเงินกู้ทำร้ายร่างกายจนเขียวช้ำทั่วตัว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่ สน.บางขุนเทียน นางชัชรี ศิริยามัน อายุ 57 ปี พร้อมด้วย นายโอฬาร พิดา อายุ 35 ปี บุตรชาย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญญฤทธิ์ ติดตารัมย์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อุไรวรรณ นรจิตต์ อายุ 61 ปี และ น.ส.เจี๊ยบ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 35-40 ปี แม่และลูกสาว ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการห้องเช่าและปล่อยเงินกู้ในซอยเอกชัย 30 หลังถูกแม่และลูกคู่นี้ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปี
นางชัชรี ให้การว่า เมื่อประมาณ 4-5 ปี ก่อนหน้านี้ ตนกู้เงินจำนวนหนึ่ง ยอดรวมประมาณ 180,000 บาท จาก น.ส.อุไรวรรณ เพื่อมาใช้จ่ายรายวัน และนำมาจ่ายหนี้เงินกู้ที่ค้างชำระกับนายทุนโต๊ะอื่นๆ ซึ่งกับลูกชายตนก็ดิ้นรนหาเงินใช้หนี้สินที่ติดค้างกับ น.ส.อุไรวรรณ มาเรื่อย ทั้งคอยหาเงินสดมาชดใช้ และตนยังยอมไปเป็นแม่บ้านลักษณะทำงานจิปาถะรายวันให้กับ น.ส.อุไรวรรณ ที่บ้าน โดยได้ค่าแรงวันละ 350 บาท แต่ตนขอรับค่าแรงเพียง 150 บาท ส่วนอีก 200 บาท ให้หักใช้หนี้กันไป จนทุกวันนี้หนี้สินหมดไปแล้ว
นางชัชรี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ เกิดขึ้นมาได้นานประมาณ 1 ปี จากเหตุผลที่ตนทำงานบ้านไม่ถูกใจ ทำให้ น.ส.อุไรวรรณ และ น.ส.เจี๊ยบ ลูกสาว ใช้ถ้วยชาม และของต่างๆ ที่หาได้ใกล้มือทุบตีเอา แรกๆ ตนได้รับบาดเจ็บไม่มาก เป็นแผลแค่ฟกช้ำเล็กน้อย จึงไม่ติดใจเอาความอะไร ประกอบกับเห็นว่า ยังติดหนี้สินกันอยู่ กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ถูก น.ส.เจี๊ยบ ลูกสาวของ น.ส.อุไรวรรณ ทำร้ายร่างกายอีก โดยใช้อาหารกระป๋อง รองเท้า และชามเซรามิค ทุบตีเข้าที่ใบหน้า แผ่นหลัง และขา จนเกิดบาดแผลเขียวช้ำไปทั่วตัว ทีแรกตนก็ไม่คิดติดใจเอาความเช่นเดิม แต่พอลูกชายทราบเรื่องก็ทนไม่ไหวตัดสินใจพาตนเข้าแจ้งความในที่สุด
ทางด้าน นายโอฬาร ลูกชายของ นางชัชรี กล่าวว่า ตนทำงานเป็นพนักงานบริษัทเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพฯ และ จ.ระยอง เป็นประจำ ทราบดีว่าแม่เป็นหนี้ น.ส.อุไรวรรณ ที่ผ่านมาตนก็พยายามหาเงินช่วยแม่ชำระมาโดยตลอด ล่าสุดตนก็ช่วยแม่ชดใช้ไปให้ จำนวน 55,000 บาท ที่ผ่านมาไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่าแม่ถูก น.ส.อุไรวรรณ กับ น.ส.เจี๊ยบ ลูกสาวทำร้าย แต่เคยเห็นรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและตามร่างกายบ้าง พอตนถามแม่ก็ปิดบังอ้างว่าหกล้มบ้าง ถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนบ้าง จึงไม่คิดอะไร กระทั่งเหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ตนคาดคั้นถามจนแม่ยอมบอก จึงรีบเดินทางจาก จ.ระยอง กลับมากรุงเทพฯ เพื่อพาแม่เข้าแจ้งความดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.บุญญฤทธิ์ กล่าวว่า รับคดีเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากนี้จะส่งตัว นางชัชรี ไปตรวจร่างกายรับใบรับรองจากแพทย์ที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งในเบื้องต้นจะรับแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ กับ น.ส.อุไรวรรณ และ น.ส.เจี๊ยบ ลูกสาวเอาไว้ก่อน ส่วนจะถึงขั้นร่วมกันทำร้ายและเป็นอันตรายแก่กายถึงขั้นสาหัสหรือไม่ต้องสอบปากคำ นางชัชรี อย่างละเอียดและนำใบรับรองแพทย์มาถึงอีกครั้ง ก่อนเรียกตัวคู่กรณีเดินทางมาสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป