จับแท็กซี่จี้ชิงทรัพย์ผู้โดยสาร อ้างหาเงินซื้อชุดนักเรียนให้ลูก

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.ประเวศ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ปิยะกรณ์ ศรีวันทา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ พินิจ สว.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ต.จิรัสย์ หมื่นสิน สว.สส.สน.ประเวศ และฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ร่วมกันจับกุมนายศิวพล เดชภูวดล อายุ 36 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอลูกปัดสีทอง พระรอด ลำพูน 1 องค์ พระรอด รุ่นเสือวัดประดู่ 1 องค์ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย. เวลาประมาณ 14.50 น. ผู้เสียหาย อายุ 58 ปี ได้เรียกแท็กซี่คัน สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน 3238 กรุงเทพมหานคร จำหมวดอักษรไม่ได้ บริเวณซอยนักกีฬาแหลมทอง 38 เพื่อไปทำธุระ เมื่อแท็กซี่พามาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุซอยข้างหมู่บ้านกฤษณา แขวง/เขตสะพานสูง กรุงทพฯ คนขับแท็กซี่ใช้มีดคัตเตอร์จี้ กระชากสร้อยคอผู้เสียหายไป แล้วขู่ว่าจะทำร้ายหากไม่เอาทรัพย์สินออกมาให้หมด เมื่อผู้เสียหายได้จังหวะจึงเปิดประตูรถวิ่งหลบหนี

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ประเวศ ชุดสืบสวนจึงได้พาผู้เสียหายไปชี้จุดที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน มฎ-3238 กทม สีเขียวเหลือง มารับผู้เสียหายจริง จึงได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ครอบครองรถ จากนั้นได้ขยายผลการตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง กระทั่งพบผู้ก่อเหตุคือนายศิวพล เดชภูวดล อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายเจ้าของรถ โดยผู้เสียหายได้ชี้ยืนยันภาพถ่ายว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.เวลาประมาน 09.30 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ ได้ไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 2098/680 ซอยหัวหมาก 31 แขวงหัวหมาก เขตบางกระปิ กรุงเทพฯ พบรถแท็กซี่ คันดังกล่าวจอดอยู่ที่หน้าบ้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชิญตัวนายศิวพล มาสอบสวน

จากการสอบสวนนายศิวพล ให้การรับสารภาพว่า ตนมาขับรถแท็กซี่แทนพ่อตามวันเวลาเกิดเหตุ โดยได้ใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ จี้ชิงสร้อยของผู้เสียหายจริง เพราะคิดว่าเป็นสร้อยลักษณะคล้ายทองคำ และยินดีพาเจ้าหน้าที่ไปเอาพระเครื่อง 2 องค์ ของผู้เสียหายที่เก็บไว้ในบ้าน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นต้องการเอาเงินไปซื้อชุดนักเรียนให้ลูก เนื่องจากลูกใกล้เปิดเทอม จากการตรวจสอบประวัติไม่เคยต้องคดีแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีดและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป