‘แพทองธาร’ ลั่น ไร้แผน ‘ปรับครม.’ ป้อง รมต. ไม่มีใครดื้อ

‘แพทองธาร’ ลั่น ไร้แผน ‘ปรับครม.’ ป้อง รมต. ไม่มีใครดื้อ

“แพทองธาร” เผย คุย “พีระพันธุ์” ไร้แผน “ปรับครม.” ระบุ ไม่มี รมต.ดื้อ แซว ตัวเอง นายกฯ ดื้อสุด แจง ตอนนี้งานกระทรวงเป็นรูปเป็นร่าง จ่อเรียก2รมต. ถก ระบุ ทำงานคนละสไตล์กับ “ทักษิณ”

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงนโยบายปรับลดค่าไฟ ตรงนี้ถือเป็นหลักประกันเก้าอี้ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ด้วยหรือไม่ ว่า อันนี้ไม่ทราบเลยว่าทำไม หลังไมค์เคยคุยกับสื่อเลยด้วยซ้ำ ว่าไม่เคยพูดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี และยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำ คิดว่าอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกฯ แต่ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ ก็พูดคุยกันอยู่เมื่อสักครู่ และก็ไม่มีการจะปรับคณะรัฐมนตรี 

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่ายังไม่ปรับคณะรัฐมนตรีตอนนี้ แต่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะเรียกรัฐมนตรีรายบุคคลเข้ามาประเมินผลงานภายใน 3 เดือน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแพลน ต้องโทษตัวดิฉันเองเพราะความจริงอยากคุยตั้งแต่เริ่มเป็นนายกฯ แต่พอหลายอย่างเข้ามา ก็ต้องแยกก่อนว่าแต่ละกระทรวงรับผิดชอบงานหัวข้ออะไรบ้าง ตอนนี้งานของแต่ละกระทรวงข้อนข้างเป็นรูปเป็นร่างเต็มที่มาก ฉะนั้นการเชิญรัฐมนตรีเข้ามาคุยได้แจ้งทุกท่านตั้งแต่ ปี67 แล้ว เรื่องนี้รัฐมนตรีไม่ตกใจแน่นอน เพราะความจริงเป็นเพียงการอัพเดตว่าสถานะของแต่ละนโยบายทำถึงไหนแล้ว ตนกระจายงานต่างๆให้รองนายกฯแต่ละท่าน แต่ที่อยากเรียกรัฐมนตรีเข้ามาเพราะต้องการทราบว่าคนที่อยู่หน้างานทำอะไรบ้าง จะได้คุยกันได้เพื่อจัดเวลาให้รัฐมนตรีแต่ละท่านในการนำเสนอพูดคุยและขอการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม คิดว่าภายในเดือนนี้จะมีการเชิญรัฐมนตรี 2 กระทรวงมาพูดคุย 

เมื่อถามว่า หากแก้ทุนผูกขาดไม่ได้ จะเปลี่ยนคนทำงานแทนอย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดบนเวทีปราศรัยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนกล่าวว่า ที่นายทักษิณพูด ถ้าฟังดีๆ คิดว่าเป็นสไตล์การทำงานของนายทักษิณ ซึ่งไม่เหมือนกับตน คนละแบบกัน การที่เรียกมาคุยดิฉันไม่ได้เรียกมาคุย คือจริงๆแล้วรัฐมนตรีทุกท่าน รองนายกฯทุกท่าน สามารถพูดคุยได้ อย่างรมว.พาณิชย์ เรื่องราคาสินค้าพูดคุยกันว่าจะช่วยสินค้าเกษตรนั้นๆอย่างไรได้บ้าง แต่เรื่องผูกขาดราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการไม่อยากให้มีการผูกขาดเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เน้นย้ำไป จากนั้นเป็นขั้นตอนการทำงาน การจะเปลี่ยนตัวอะไรยังไม่มีการพูดถึง 

เมื่อถามว่า สไตน์การทำงานที่ต่างจากนายทักษิณ แต่การปรับคณะรัฐมนตรีของนายกฯ จะเป็น 3 เดือนหรือ 6 เดือน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่นักข่าวถามสไตล์การทำงานดิฉันแตกต่างจากคุณพ่ออย่างไร ดิฉันจะคุยก่อนและคุยตรงๆว่าสิ่งนี้อยากให้เกิดขึ้นได้ไหม และส่วนกลางจะสนับสนุนเรื่องอะไรได้บ้าง ถ้าพูดไปแล้วไม่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าละเลยไม่สนใจทำงานมันเห็นได้ถึงเจตนาอยู่แล้วอันนี้คงไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นกระบวนการของมันเราเข้าใจได้ เราก็ต้องสนับสนุนให้เดินไปต่อ เพราะการมีเสถียรภาพทำให้งานมันเกิดไม่ว่าจะในกระทรวงหรือในรัฐบาล ทำให้งานต่อเนื่อง ดิฉันคิดว่าดิฉันยังไม่มีแผนที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ถ้ามีหรืออย่างไรจะบอกอีกทีแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องดังกล่าวเลย และทุกอย่างต้องดูจากผลงาน 

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่พูดทั้งเรื่องนโยบายและเรื่องการเมือง มองเป็นการบดบังรัศมีของนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าทุกท่านเวลาที่พูดกันว่า นายกฯตัวจริงบ้าง นายกฯกี่คนบ้างอะไรก็ตามที่แปลว่าหลายๆนายกฯ ทุกอย่างที่ผ่านมาคือมันต่างตรงที่ว่า พอดีดิฉันเป็นลูก ดิฉันไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน ดิฉันโตขึ้นมาในบ้านที่ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่ท่านพูดหากเรานำมาประยุคได้มันคือสิ่งดี และดิฉันมองทุกอย่างเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน นักวิชาการ รัฐมนตรี พูดอะไรที่เป็นประโยชน์มองว่าคนนำมาใช้ เราจะฟังไม่ได้เลยกับคนที่ไม่ชอบเราคงไม่ได้ อย่างตัวคุณพ่อเองเคยเป็นนายกฯมาก่อน และประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉะนั้น การพูดดิฉันรับฟังได้อยู่แล้ว และความจริงถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้เมื่อไหร่สื่อมวลชนก็ต้องรู้หลังไมค์กันแน่นอน เราคิดง่ายๆว่าเวลาคนในครอบครัวคุยกันอย่างไร ดิฉันก็คือหนึ่งในนั้นเป็นแบบนั้น ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ที่ท่านพูดออกไป ก็ไม่ มันเป็นสไตล์การพูดของท่าน 

เมื่อถามว่า แต่นายทักษิณ พูดนโยบายออกมาก่อนแล้วรัฐบาลมักจะทำตามทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเป็นนายกฯตัวจริงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็นั้นคือการคุยกันหลังไมค์ก่อน และตัวดิฉันก็กำหนดไว้ว่าการให้สัมภาษณ์ของตนคือวันอังคารหลังครม.เท่านั้น พอนายทักษิณ ออกไปพูดคุยก่อน ก็เป็นรอบที่ท่านได้พูดก่อน ก็ไม่เป็นไรเพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง และดิฉันไม่ได้กระทบอะไร ไม่ได้รู้สึกว่านายกฯสองคนสามคน แล้วต้องเสียใจหรืออะไร

เมื่อถามว่า เหมือนแบ่งบทกันให้พ่อเป็นฝ่ายบู๊ ลูกเป็นฝ่ายประนีประนอม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณ พูดหลายอย่างมัน ก็ไม่ได้เกิดขึ้น หลายอย่างต้องผ่านมติคณะรัฐมนตรี มติพรรค นายทักษิณ เป็นคนมีวิสัยทัศน์คิดต่อยอด เป็นเรื่องที่ดี ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไรเป็นวิสัยทัศน์ก็เป็นวิสัยทัศน์จะนำมาปฏิบัติหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ต้องแยกว่าวิสัยทัศน์เป็นอย่างนั้น ฝ่ายบริหารว่าอย่างไรต้องแยกภาพให้ชัด มันไม่ได้กระทบกันทั้งหมด ถ้ากระทบเรื่องดีมันก็ดี 

เมื่อถามว่า วันนี้ยังไม่มีพรรคไหนดื้อหรือรัฐมนตรีคนไหนยังไม่ผ่านงานใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ยืนอยู่ด้านหลังน.ส.แพทองธาร หันไปจับแขน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย พร้อมกับถามว่า “ดื้อหรือเปล่า” ก่อนจะกล่าวว่า “มีแต่น่ารักไม่มีดื้อ” ทำให้ น.ส.แพทอธาร ถึงกับหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “ท่านบอกว่ามีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อสรุปนายกฯดื้อสุด”