‘ศิริกัญญา’ เปิดไต๋ซักฟอก นายกฯ-รมต.ทุกพรรคโดนหมด วางคิว ก.พ.-มี.ค.ยื่นแน่

‘ศิริกัญญา’ เปิดไต๋ซักฟอก นายกฯ-รมต.ทุกพรรคโดนหมด วางคิว ก.พ.-มี.ค.ยื่นแน่

‘ศิริกัญญา’ เผยคิวยื่นซักฟอกรัฐบาล ปลาย ก.พ.-ต้น มี.ค. 68 โดนหมด รมต.ทุกพรรค เป้าหลัก ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ยกหลักฐานใหม่ ‘เขากระโดง’ เงื่อนปมชั้น 14 ด้วย จับตา ‘พีระพันธุ์’ ถูกเขย่าเรื่องซื้อพลังงาน ‘กล้าธรรม’ โดนด้วย ลั่นไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใครมีแผลเราเปิดหมด

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2567 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงประเด็น “ฝ่ายค้าน” เตรียมข้อมูล และวางคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า คาดว่าจะให้เวลารัฐบาลไปเตรียมเวลาที่ว่าง และเข้ามาที่สภาฯ ดังนั้นวางคิวการยื่นไม่ปลาย ก.พ. ก็ต้น มี.ค. 2568 โดยต้องบอกว่าเรารวบรวมข้อมูล รวบรวมความผิดมาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว ดังนั้นของที่มีก็เข้มข้นมาก และเติมเรื่องมาได้เรื่อย ๆ ทุกวันนี้ก็พยายามจะรวบรวม มีเรื่องใหม่มาให้เราได้เตรียมข้อมูลกันเรื่อย ๆ 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตอนแรกมีแนวคิดว่า เราควรที่จะอภิปรายเฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ เฉพาะพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลระส่ำระส่ายกันเอง แต่ปรากฏว่าวันนี้ความผิดที่เราพบ ครบทุกพรรคร่วมรัฐบาล เราคงไม่เสียโอกาสนี้ในการที่จะยื่นซักฟอกครบทุกพรรคร่วมรัฐบาล เกือบ ๆ ทุกรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรี ที่ถึงแม้เข้ามาทำงานไม่นาน แต่มีความผิดพลาดเป็นที่ประจักษ์ ที่เราสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เลย

เมื่อถามว่า เป้าใหญ่ในการซักฟอกนอกเหนือจากพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยแล้ว ยังพรรคไหนอีกบ้าง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป้าใหญ่คงเป็นพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ส่วนที่เหลือมีรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคประชาชาติ พรรคกล้าธรรม รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แต่เดี๋ยวพูดไปน่าจะรู้ตัว ตามธรรมเนียมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราคงต้องอุบชื่อ หรือข้อมูลไว้ก่อน เพื่อให้การอภิปรายน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น

“ขอให้รอติดตามดูว่าเรื่องราวจะเป็นเรื่องแบบไหนที่จะไปถึงรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ ขอบอกรัฐบาลว่า อย่าเพิ่งรีบปรับ ครม. เพราะ 1 ปีที่ผ่านมามีการปรับ ครม.ค่อนข้างถี่ บางเรื่องเราตัดทิ้งไปเลย เพราะรัฐมนตรีไปแล้ว แต่เราคงมีวิธีการที่จะยื่นเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร ต้องทำต่อไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา ยังอธิบายข้อมูลเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีแต่ละพรรคด้วย เช่น พรรคประชาชาติมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็น รมว.ยุติธรรม จะถูกซักฟอกประเด็น “ชั้น 14” โดยยืนยันว่าไม่ได้อภิปรายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตรงแน่นอน แต่เรื่องกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน ก่อนหน้านี้เราอาจไม่ได้พูดเพราะอาจกระทบในการขับเคลื่อนกระบวนการนิรโทษกรรม หรืออะไรต่าง ๆ แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้ว เราคงเดินหน้าเต็มสูบในเรื่องนี้ อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมก่อนหน้านี้เราเงียบ เรามีเหตุผลของเราเหมือนกัน

ส่วนกรณีพรรค รทสช. จะมีทั้งเรื่องนโยบาย และทุจริต เรื่องนโยบายเราคงคุยกันชัด ๆ ไปแล้วหลายรอบทั้งเรื่องพลังงาน การรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในรอบที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน มีบทบาทสำคัญที่จะชะลอ เพราะรัฐมนตรีใส่เกียร์ว่างเต็มสูบเรื่องนี้ แม้ว่าจะยังไม่ซื้อล็อต 3.6 พันเมกะวัตต์ แต่ความผิดล็อตแรก 5 พันเมกะวัตต์ อยู่ในมือของนายพีระพันธุ์ เราคงคุยกัน แต่ไม่ใช่รัฐมนตรีคนเดียวของ รทสช.ที่จะอภิปรายในครั้งนี้ ยืนยันว่าบางเรื่องเป็นข่าวอยู่แล้ว และเราจะนำมาย้ำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลายเรื่องผิดพลาด สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ มากกว่าคอร์รัปชันเสียอีก แต่เราเดาใจประชาชนว่า อยากฟังเรื่องคอร์รัปชันมาก เราเลยให้น้ำหนักตรงนั้นมากกว่าเรื่องบริหารงานผิดพลาด

“น่าจะได้เห็นกันในตอนที่เขียนคำยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจ จะบรรยายว่ามีความผิดอะไรอยู่บ้าง เผลอ ๆ อาจได้พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคใหม่ หากเขย่าเรื่อย ๆ แต่เรายึดหลักตรงไปตรงมา เรื่องสมการการเมืองเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเราโฟกัสตรงนั้นมาก เราอาจพลาดโอกาสนำเสนอเรื่องราวที่เป็นปัญหาให้กับสังคม เราเลยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใครมีแผลเราเปิดหมด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นั้น จะอภิปรายทั้งเรื่องทุจริตและนโยบาย โดยมีเรื่องที่เป็นการทุจริตคาบเกี่ยวกันมาตั้งแต่รัฐมนตรีคนก่อน เราคงต้องเดินหน้าพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงคนปัจจุบันด้วย แต่รายละเอียดคงต้องขออุบเอาไว้ ขณะที่พรรคกล้าธรรม ยืนยันว่า ไม่น่าจะแค่เรื่อง “ปุ๋ยคนละครึ่ง” แต่มีอะไรเหนือความคาดหมายมากกว่านั้น ขอให้รอติดตาม

ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องบอกว่าเรื่องเขากระโดงสังคมสนใจเป็นอย่างมาก คงต้องเอาเข้ามาย้ำ แต่มีข้อมูลเพิ่มเติม มีหลักฐานเพิ่มเติมที่น่าจะทำให้เรื่องนี้กลับมาสดใหม่ได้อีกครั้ง

“เรามีธีมหลัก ๆ อันหนึ่งที่เราทำงานกันอยู่ และเห็นได้ชัดว่าเป็นการสานงานต่อจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มาที่รัฐบาลนายเศรษฐา และ น.ส.แพทองธาร หลายเรื่องเป็นความผิดพลาด การทุจริตยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่พอถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับไม่แก้ปัญหา แต่กลับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการทุจริตเหล่านี้ด้วย หลายเรื่องตอนเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ยังอภิปรายโจมตีเรื่องนี้อยู่ แต่พอเป็นรัฐบาลกลับนิ่งเงียบ และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมันแทน ไม่ใช่แค่ไม่แก้ไข แต่เข้าไปมีส่วนร่วมเลย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

รองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยที่เป็นเป้าโฟกัสหลักนั้น มีทั้งเรื่องนโยบาย และเรื่องทุจริต แต่ในส่วนของนายกฯ (น.ส.แพทองธาร) ต้องยอมรับว่า นโยบายจะเยอะกว่า เพราะว่าด้วยความที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน แต่ผลงานในด้านผิดพลาดนโยบายเป็นที่ประจักษ์ในหลายเรื่อง เราให้น้ำหนักในส่วนนั้น ในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาล ส่วนทุจริตก็มีเสริมเข้ามาหลายเรื่อง ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ของเพื่อไทย น่าจะมีการทุจริตอย่างแน่นอน

“เรื่องซอฟต์พาวเวอร์มีไหม เบาไปไหม น่าจะเบาไป อาจจะไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำหรับรอบนี้ ไว้เดี๋ยวรอดู แต่มีอะไรที่หนักหนากว่านั้นแน่นอน” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand