เปิดความหมายเครื่องราชกกุธภัณฑ์จักรพรรดิญี่ปุ่น

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสามชิ้นถือว่ามีความสำคัญมากและสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นในอดีตทรงเชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องราชกกุธภัณฑ์จะคุ้มครองราชวงศ์และแผ่นดินญี่ปุ่นให้คงอยู่ต่อไป แม้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามชิ้น ประกอบด้วย พระขรรค์คุซานางิ  พระฉาย หรือกระจกยาตะ และอัญมณี โดยเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสามชิ้นนี้ ได้รับการเก็บรักษาไว้ที่สถานที่ 3 แห่ง คือพระขรรค์่เก็บไว้ที่ศาลเจ้าอัตสึตะ เมืองนาโงยะ เมืองเอกของจังหวัดไอจิ พระฉายอยู่ที่ศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ ในจังหวัดมิเอะ ส่วนสร้อยพระสังวาลย์อยู่ที่พระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว

เชื่อกันว่าพระขรรค์ มีลักษณะคล้ายดาบดายหญ้า จากบันทึกประวัติศาสตร์โคจิกิ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับตำนานของญี่ปุ่นระบุว่า เทพซูซาโนโอะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลและลมพายุ พบดาบศักดิ์สิทธิ์นี้ในหางของพญางู 8 หัว ก่อนที่จะมอบดาบองค์นี้ให้แก่เทพีอามาเทราสึ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ผู้เป็นพี่สาว บางตำนานเล่าว่า ดาบนี้ได้สูญหายไปแล้ว โดยดาบปัจจุบันอาจเป็นดาบจำลอง แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้

ดาบคุซานางิถือเป็นดาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเล่มหนึ่งในโลก ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความกล้าหาญขององค์พระจักรพรรดิญี่ปุ่น

ส่วนกระจกเชื่อกันว่าทำจากสำริด อาจมีอายุมากกว่า 1,000 ปี และถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายความเคารพแด่เทพีอามาเทราสึ เทพผู้ยิ่งใหญ่เหนือเทพอื่นทั้งมวล และ  

ตามคติความเชื่อของชาวญี่ปุ่น กระจกมีพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงกับเทพเจ้า มีคุณสมบัติในการสะท้อนและเปิดเผยความจริง และกระจกศักดิ์สิทธิ์ยาตะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงปัญญาขององค์พระจักรพรรดิ

ส่วนอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นลูกปัดรูปทรงคล้ายครึ่งหนึ่งของหยินหยาง หรือเครื่องหมายจุลภาค ทำจากหยกสีเขียว ตามตำนานเล่าว่า ลูกปัดอัญมณีนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของสร้อยคอของเทพีอาเมะ เทพเจ้าแห่งความรื่นเริง เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงคุณธรรมข้อสุดท้ายขององค์จักรพรรดิคือความเมตตากรุณา

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามชิ้น ได้รับการรักษาและบรรจุไว้ในกล่องผ้าปักลายดอกเบญจมาศ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ และไม่เคยมีพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดเคยทอดพระเนตรราชสมบัติทั้งสามชิ้น แม้แต่สมเด็จพระจักรพรรดิตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงองค์ปัจจุบัน เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่าสูงมาก