“เรืองไกร” ยื่น กกต. สอบ 13 ส.ส. “พปชร.-ปชป.” ถือหุ้นสื่อขาดคุณสมบัติ จ่อยื่นศาลปกครอง ไต่สวนฉุกเฉินสั่งระงับประกาศรับรอง 149 ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพิกถอน-คำนวนใหม่ เหตุเอื้อ 11 พรรคเล็กไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -10 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครสสแบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เข้าให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการสอบสวนของ กกต.กรณีกล่าวหา. ส.ส.4 ราย คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายทวีศักดิ์ ณตะกั่วทุ่ง ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพรรคประชาชาติไทย และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ
นายเรืองไกร ระบุว่า ยังมีข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส.บางรายที่ถือหุ้นบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทำสื่ออย่างชัดเจนและยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จนมาถึงปัจจุบันด้วยอีก 13 ราย ประกอบด้วยพรรคพลังประชารัฐ 7 รายคือน.ส. ภาดาท์ วรกานนท์ กทม.เขต 6 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัททาโร่ทาเลนท์จำกัด จำนวน 1,500 หุ้น น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ กทม.เขต 7 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทรางวัลไทยจำกัด 9,000 หุ้น นายสิระ เจนจาคะ กทม.เขต 9 มีชื่อเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจํากัดไฮเทคออดิโอ โดยลงหุ้นเป็นเงิน 50,000 บาท น.ส.เกศกานดา อินช่วย กทม.เขต 16 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทก้าวไกล ครีเอทจำกัด จำนวน 9,900 หุ้น นายศันสนะ สุริยะโยธิน ผู้สมัครกทม.เขต 22 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัททีพีพีจำกัด จำนวน 2,500 หุ้น นายอรรถกร ศิริลัทธยากร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทวายเอ็ม จอมเทียนจำกัด จำนวน 2,500 หุ้น นายยุทธนา โพธสุธน มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบ้านไทยรีสอร์ทจำกัด ถือหุ้นจำนวน 10,000หุ้น
พรรคประชาธิปัตย์ 6 รายคือคุณหญิงกัลยาโสภณพนิช มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทวัฒนโสภณพนิชจำกัด จำนวน 50หุ้น นายเกียรติ สิทธีอมร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทโปรเอ็นโฮลดิ้งส์จำกัด115,783หุ้น นายวีระชัย วีระเมธีกุล มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทศิริเมธีกุลจำกัดจำนวน 809,980หุ้น นายประกอบ จิรกิติ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทพีแอนด์วีพร็อพเพอร์ตี้จำกัดจำนวน 30,000หุ้น นายสัญชัย อินทรสูต มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทนครสวรรค์สหธุรกิจจำกัดจำนวน 1,500หุ้น และร้อยตรีวิจิตร อยู่สุภาพมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทนครสวรรค์สหธุรกิจจำกัด 4,375 หุ้น
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า จะใช้สิทธิ์ในฐานะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งถือว่ามีส่วนได้เสียโดยตรง ไปยื่นศาลปกครองเพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อระงับประกาศ ประกาศกกต.ที่รับรองส.ส. แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 149 คน และเพิกถอนพร้อมสั่งให้กกตคำนวณ จัดสรรส.สบัญชีรายชื่อใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการคำนวณของกกต. ที่จัดสรรสสบัญชีรายชื่อให้กับ 11 พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้คะแนน ไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมีถือว่าเป็นการคำนวณที่ขัดกับ
พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ( 5 )โดยจะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนประกาศและให้กกต.คำนวณ ใหม่ ซึ่งเชื่อว่ามีช่องทางที่ศาลจะรับคำร้องเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจของกกต ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จึงหวังว่าศาลจะรับไว้พิจารณาและสั่งให้ไต่สวนฉุกเฉินรวมทั้งคุ้มครองชั่วคราวส่วนการดำเนินคดีอาญากับกกต.เป็นสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบจะไปดำเนินการได้ซึ่งเชื่อว่ามีหลายฝ่ายจองกฐินไว้แล้ว