รรท.ผบช.สตม. ปัดทุจริตจัดซื้อ 'ไบโอเมทริกซ์' เผยเป็นผลงานยุคเก่า เชื่อมีประโยชน์
"พล.ต.ท.สมพงษ์" เผยการจัดซื้อระบบไบโอเมทริกซ์เป็นโครงการก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับตำแหน่ง เชื่อว่าเป็นการจัดซื้่ออย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ให้ดำเนินการตรวจสอบโครงการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังพบว่าการใช้งานไม่ได้ประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และพบปัญหาการใช้งานบ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ระบบไบโอเมทริกซ์ เป็นโครงการที่มีมาก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งประมาณสองปีแล้ว และถือเป็นระบบสากล ที่มีการใช้ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เพราะมีความละเอียดในการตรวจสอบมากกว่าการใช้เจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว จากการตรวจสอบ การจัดซื้อของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องโปร่งใส แม้ในช่วงแรกที่มีการเริ่มติดตั้งระบบ อาจจะมีความล่าช้าบ้าง แต่เมื่อนานไปทุกอย่างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และช่วยป้องกันอาชญากรข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวในไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.ท.สมพงษ์ เผยอีกว่า โดยส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดนายษิทรา จึงนำเรื่องนี้มายื่นตรวจสอบ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับมา มีบริษัทเอกชนบางราย พยายามที่จะเข้ามาล้มโครงการเดิม เพื่อเข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ตนเองยืนยันว่า ของฟรีไม่มีในโลก สิ่งที่บริษัทเหล่านี้จะได้ไปคือเซิร์ฟเวอร์ ที่มีฐานข้อมูลการเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยว รวมถึงคนไทย ซึ่งฐานข้อมูลถือว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ จึงต้องเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานที่เก็บข้อมูลไว้เป็นความลับได้
“ปัจจุบันมีการปลอมแปลงพาสปอร์ตที่เหมือนจริงเป็นอย่างมาก การใช้ระบบไบโอเมทริกซ์เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบถือว่าเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยินดีที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบโครงการจัดซื้อ เพราะมั่นใจว่าเป็นการดำเนินการอย่างโปร่งใส และตรงไปตรงมา” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว