“สุวิทย์” เผย “โควต้ารมต.” ลงตัวเร็วๆนี้ ชี้เป็นธรรมดาที่เกิดความสับสน อย่ามองเป็นความขัดแย้ง ระบุต้องให้เกียรติ “นายกฯ” ร่วมตัดสินใจ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.62 เวลา 10.25 น.ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งในการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีระหว่างพรรค พปชร.กับพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถูกมองไม่มีความเป็นเอกภาพว่า อยู่ระหว่างการหารือ และน่าจะลงตัวในเร็วๆ นี้ ขณะนี้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ประสานงานและหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนขณะนี้ที่ดูเหมือนว่าจะเกิดความสับสนทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลและภายในพรรคเองนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นความคิดเห็นที่หลากหลาย อย่าไปมองว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะไม่มีอะไร ในที่สุดต้องหาข้อยุติ เพราะประเทศต้องเดินหน้า อย่าไปมองว่าเรื่องนี้ทำให้รัฐบาลไม่เป็นเอกภาพ เดี๋ยวทุกอย่างก็ลงตัว เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะใกล้จบแล้ว คงจะเร็วๆนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มจะต้องกลับไปยึดดีลเดิมที่เคยตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้เป็นคนดีล
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรียังคงเป็นคนเคาะครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำของประเทศและผู้นำรัฐบาล น่าจะเป็นคนที่เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจด้วย
เมื่อถามย้ำ นายกฯจะต้องเป็นคนตัดสินใจสุดท้ายหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติท่านพิจารณาอยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล และต้องมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจ ตอนนี้รอเพียงขั้นตอนการโปรดเกล้าฯตำแหน่งนายกฯลงมาเท่านั้น
เมื่อถามถึงอดีต 4 รัฐมนตรี จะไม่ได้รับตำแหน่งครบทั้ง 4 คนในครม.ชุดต่อไปนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ และยืนยันว่าเราทำได้ทุกภารกิจ ไม่ได้เจาะจงว่าต้องรับตำแหน่งใด รวมถึงไม่ถือว่าข่าวที่ออกมาเป็นความขัดแย้งในพรรค และเชื่อว่าน่าจะใกล้จบในเร็วๆนี้
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแถลงนโยบาย ทางพรรค พปชร.ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในช่วงบ่ายนี้ (10 มิ.ย.) จะนัดหารือเป็นการภายใน เพื่อเป็นโครงร่างเตรียมเดินหน้าแถลงนโยบายรัฐบาลตามกฏหมาย และจากนั้นจะต้องดูว่าในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลมีนโยบายสำคัญอะไรบ้าง และจะมาประมวลกัน เพราะส่วนใหญ่นโยบายค่อนข้างตรงกัน ทั้งพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ นำมาผสมผสานกัน ซึ่งแกนนำหลักไม่ได้ผิดเพี้ยนกันสักเท่าไร ตลอดจนสานต่อนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านทาเพื่อตอบโจทย์ประชาชน แต่เราต้องเริ่มจากโครงหลักคือ พรรค พปชร.