ผอ.แก่นนครวิทยาลัย-ผู้ปกครอง เปิดข้อมูลม.3รุมตบทวงหนี้ เผยเคลียร์กันแล้ว

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันรุมทำร้ายตบตีนักเรียนหญิงชั้นเดียวกัน ภายในห้องเรียนจนได้รับบาดเจ็บ โดยมีสาเหตุมาจากการทวงหนี้จากนักเรียนที่โดยทำร้าย ซึ่งภายหลังจากที่คลิปวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ได้มีผู้ที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ในทำนองที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของนักเรียนที่กระทำต่อกัน

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวีระเดช ซาตา ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้เชิญผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย และตัวนักเรียนที่ก่อเหตุมาประชุมภายในห้องประชุมของโรงเรียน เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน โดยภายหลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการสอบสวนเบื้องต้น ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าว

นายวีระเดช ซาตา ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ทางโรงเรียนเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยอมรับว่านักเรียนที่อยู่ในคลิปวีดีโอที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่อยู่ในความดูแลของทางโรงเรียนจริง จากการสอบสวน ทราบว่า การทะเลาะวิวาทครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่กลุ่มของนักเรียนหญิงที่เป็นฝ่ายลงมือทำร้าย รวม 5 คน ได้ตามไปทวงหนี้ที่นักเรียนหญิงคนที่ถูกทำร้ายยืมไป จำนวน 4,200 บาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ปกครองของนักเรียนฝ่ายที่ถูกทำร้ายได้โอนเงินไปให้นักเรียนที่เป็นคนลงมือแล้ว จำนวน 2,000 บาท โดยที่ผู้ปกครองเองก็ไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร แต่ก็ยังเหลือเงินที่ติดค้างอยู่อีกจำนวน 2,200 บาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงพักเที่ยงของวันที่ 10 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนส่วนใหญ่จะลงไปอยู่ด้านล่าง จึงทำให้คณะครูอาจารย์ทราบว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น จนกระทั้งมาทราบเรื่องหลังจากที่คลิปวีดีโอถูกเผยแพร่ออกมา

ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ระบุว่า จากการประชุมร่วมกันกับผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่าย ได้ข้อสรุปว่า ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ด้วยดี โดยผู้ปกครองของนักเรียนหญิงเป็นฝ่ายทำร้ายได้กล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจกับการกระทำของลูกตนเอง ซึ่งได้ว่ากล่าวตักเตือนอย่างหนักไม่ให้ก่อเหตุแบบนี้อีก ผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกรุมทำร้ายแม้จะเสียใจที่บุตรหลานของตนเองถูกกระทำ แต่ก็ไม่ติดใจเอาความหรือแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนจะดำเนินการเอาผิดในทางวินัยกับกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุ โดยจะทำการคาดโทษเอาไว้เพื่อไม่ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีก หากในอนาคตพบว่า มีพฤติกรรมเช่นนี้อีกก็จะถูกลงโทษตามระเบียบของทางโรงเรียนอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ทางโรงเรียนจะเพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้นักเรียนของโรงเรียนก่อเหตุในลักษณะนี้ โดยเน้นย้ำให้ครูประจำชั้นของแต่ละห้องเรียนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ ม.1 – ม.6 ซึ่งมีอยู่จำนวน 108 ห้อง จากนักเรียนทั้งหมด จำนวน 4,270 คน คอยสอดส่งดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หากนักเรียนคนใดที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะใช้ความรุนแรงก็จะได้รับการอบรมอย่างใกล้ชิด

ด้านผู้ปกครองของนักเรียนหญิงฝ่ายที่ถูกทำร้าย ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ – นามสกุล และใบหน้า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ไม่เอาความหรือดำเนินคดีกับกลุ่มนักเรียนที่รุมทำร้ายหลานสาวของตนเอง เพราะอยากให้นักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย ได้คุยกันด้วยดีมากกว่า เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็เคยเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมาก่อน ยอมรับว่าเสียใจที่หลานสาวถูกทำร้ายอย่างรุนแรง แต่ก็เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย นักเรียนที่ก่อเหตุยังเป็นวัยรุ่นอยู่จึงอาจจะยังไม่มีความยั้งคิดถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะการใช้อารมณ์และกำลังในการแก้ไขปัญหา

ส่วนประเด็นที่หลานสาวของตนเองไปยืมเงินเพื่อนจำนวน 4,200 บาท ก่อนที่จะเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่าหลานสาวได้ไปยืมเงินเพื่อน กระทั่งฝ่ายที่ถูกยืมได้โทรศัพท์มาทวงเงิน ตนเองจึงถามหลานสาวแต่หลานก็ไม่ได้บอกว่าไปยืมเงินเพื่อนมา ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าหลานเป็นหนี้เพื่อนจริงเป็นเงิน จำนวน 4,200 บาท ตนเองจึงได้ใช้หนี้ให้ โดยโอนให้ไปก่อนจำนวน 2,000 บาท ในช่วงเช้าของวันที่ 10 ก.ค.62 เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเงินที่หลานยืมมาเป็นค่าอะไร และโอนส่วนที่เหลือให้อีกครั้งในอีก 2 วันถัดมา แต่ก่อนวันที่จะโอนเงินส่วนที่เหลือให้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น

วันที่หลานถูกทำร้ายตนเองและแม่ของหลานก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะหลานสาวก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพราะอาจจะกลัวถูกทำร้ายอีก กระทั่งแม่ของหลานเริ่มสังเกตเห็นว่า ลูกมีอาการแปลกๆ เช่น ลุกนั่งลำบาก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย จนต้องพาไปหาหมอ โดยบอกหมอว่า ตกบันไดมา ซึ่งสุดก็มาทราบภายหลังว่า หลานสาวถูกเพื่อนรุมทำร้ายหลังจากที่คลิปวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในโลกออนไลน์ โดยหลังจากนี้ทางครอบครัวจะพาไปให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะหลานสาวอาการยังไม่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงนักเรียนฝ่ายที่ก่อเหตุ รวมไปถึงเยาวชนทุกคนให้รู้จักยับยั้งชั่งใจมากกว่านี้ทั้งการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาและการใช้สื่อโซเชียล เพราะสิ่งที่ตามมาไม่เป็นผลดีต่อตัวเองในอนาคต คนที่เสียใจมากที่สุดก็คือพ่อแม่ที่ทำงานหาเงินส่งเรียน จึงขอให้ตั้งใจเรียนและประพฤติตนให้ดี เพราะหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกคนอื่นที่ไม่ใช่ตนเอง นักเรียนที่ก่อเหตุอาจจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีได้