“ชวน” ตรวจห้องประชุมจันทรา บอกเสร็จหมดแล้ว แต่อาจไม่พร้อมใช้ เหตุต้องเพิ่มเก้าอี้-ระบบไมโครโฟนให้พอจำนวน ส.ส. 500 คน “เลขาสภาฯ” เตรียมเร่งงานผู้รับจ้าง แม้ติดปัญหา พร้อมห่วงห้องบริวาร เสร็จไม่พร้อมใช้งานร่วมห้องประชุม พบความคืบหน้ารัฐสภา 64% เหลือสั
เมื่อเวลา 09.00 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายศุภชัย โพธิสุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง , นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตรวจสอบความพร้อมของห้องประชุมจันทรา ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย เพื่อเตรียมใช้เป็นห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว หลังจากที่บริษัทซิ-โนไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ก่อสร้างและตกแต่งภายในห้องจันทราแล้วเสร็จ และบริษัทที่รับผิดชอบด้านเครื่องเสียงและระบบที่ใช้ต่อการประชุมสภาฯ ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยใช้ตรวจความพร้อมภายในห้องประชุม อาทิ ระบบลงคะแนนทั้งส่วนของที่นั่งสมาชิก และบนบังลังก์ของประธานในที่ประชุม ระบบไมโครโฟน รวมถึงห้องควบคุมเสียง ห้องปฏิบัติงานของสื่อมวลชน ตลอดจนห้องปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับความพร้อมของห้องประชุมจันทรานั้น ตามที่บริษัทซิ-โนไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ฐานะผู้รับจ้างก่อสร้างแจ้งกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ฐานะผู้ว่าจ้าง ว่าแล้วเสร็จตามแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และผู้รับเหมางานระบบไอที ติดตั้งเครื่องเสียง ระบบที่ใช้ในการประชุมเรียบร้อย แต่พบว่าภายในห้องประชุมยังต้องเก็บรายละเอียดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง คือ การตกแต่งฉากหลังบังลังก์ประธานในห้องประชุม ที่เดิมตามแบบกำหนดให้เป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมความเป็นไทย แต่ถูกตัดงบประมาณส่วนดังกล่าวออก จึงทำให้ปัจจุบันมีสภาพเป็นปูนเปลือยสีเทา นอกจากนั้นในงบที่ถูกตัดออกไปจะเกี่ยวกับการตกแต่ง และความสวยงาม เช่น เสา ในพื้นที่อาคารเป็นต้น ขณะเดียวกันแม้ห้องประชุมจันทรา จะแล้วเสร็จ แต่ห้องทำงานอื่นๆ รวมถึงห้องน้ำ ผู้รบเหมาอยู่ระหว่างก่อสร้างและปัจจุบันไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงลิฟท์โดยสารที่อยู่บริเวณหลังห้องประชุมจันทรา ที่ขาดเครื่องกั้น รวมถึงห้องปรุงอาหารและห้องรับประทานอาหารของสมาชิกที่ยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นสำนักงานเลขาธิการ จะมีเวลาเร่งรัดผู้รับจ้างทำให้แล้วเสร็จก่อนต้นเดือนสิงหาคมนี้เพื่อให้พร้อมใช้งานในพื้นที่ส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าตอนหนึ่งที่นายชวนตรวจห้องประชุม ได้ทดสอบระบบเครื่องเสียงภายในห้องประชุม โดยกล่าวว่า “ขอความกรุณาให้ระมัดระวังสิ่งของภายในห้องประชุม เนื่องจากผู้รับจ้างยังไม่ได้ส่งมอบพื้นที่”
จากนั้นนายชวน ให้สัมภาษณ์ว่าห้องประชุมจันทรา ที่เดิมจะใช้เป็นห้องประชุมวุฒิสภา มีที่นั่งทั้งหมด 350 ที่นั่ง ดังนั้นเมื่อส.ส.จะเข้าใช้ชั่วคราวต้องเสริมที่นั่งเพิ่มอีก 150 ที่นั่ง เพื่อให้พอต่อจำนวนสมาชิกสภาฯ ทั้งสิ้น 500 คน ดังนั้นแม้ห้องประชุมจะก่อสร้างและแตกแต่งเสร็จแล้ว แต่ยังถือว่าไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องติดตั้งระบบลงคะแนนและไมโครโฟนเพิ่มเติม อีก 150 ที่นั่ง เบื้องต้นคาดว่าห้องประชุมจันทรา จะสามารถเข้าใช้ได้ประมาณเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตามห้องประชุมจันทราจะรองรับการประชุมส.ส. และ ส.ว. ได้เท่านั้น แต่หากจะประชุมร่วมรัฐสภาต้องหาสถานที่ใหม่ ส่วนการเช่าอาคารหอประชุมทีโอที จำกัด (มหาชน) นั้นหากสามารถย้ายใช้ห้องประชุมรัฐสภาเกียกกายได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณ
ขณะที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนรษฎร กล่าวยอมรับว่าห้องประชุมจันทรา ผู้รับเหมาโครงการระบุว่าแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ตามแบบก่อสร้างทุกอย่าง แต่ตนมองว่ายังไม่พร้อมใช้งานได้เต็มที่ เพราะห้องบริวารที่ต้องใช้ร่วมกับการประชุมด้วยยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งรวมถึงห้องน้ำ, บันได, ทางเดิน, ที่จอดรถ เป็นต้น โดยสำหรับที่จอดรถซึ่งเดิมกำหนดให้มีจำนวนที่จอด 2,000 คน แต่ตนขอเปิดพื้นที่เบื้องต้น 900 คน ทางผู้รับเหมายังให้ได้ไม่ถึง ซึ่งตนต้องหาสถานที่จอดรถเพิ่มเติม นอกจากนั้นคือการเพิ่มจำนวนเก้าอี้ และระบบลงคะแนน เครื่องเสียงอีก 150 ตัว เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวน ส.ส.
นายสรศักดิ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับสัญญาเช่าพื้นที่อาคารทีโอที จะหมดสัญญาวันที่ 20 กรกฎาคม แต่ตนได้ขอต่อสัญญาไปอีก 7 วัน จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม เพื่อใช้สำหรับการประชุมสภาฯ วันที่ 24 กรกฎาคม, การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 25 - 27 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตามตนต้องเร่งรัดการก่อสร้างและตกแต่งห้องบริวารและพื้นที่โดยรอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะต้องเปิดพื้นที่ให้ใช้ในการประชุม ส่วนการตกแต่งภายในห้องประชุมนั้น ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เนื่องจากฉากหลังบนบังลังก์ที่นั่งประธานยังเป็นปูนเปลือยและไม่สวยงาม เพราะสภาฯ ถูกตัดงบประมาณในส่วนดังกล่าวไปตั้งแต่การเสนอของบประมาณก้อนแรก จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 1.2หมื่นล้านบาท โดยตนได้หารือกับนายชวนเบื้องต้นว่าจะนำวอลเปเปอร์ลายไทยมาติดตั้งชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ นั้น มีความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม คืบหน้า 64.9เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 80.96 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามระยะเวลาก่อสร้างที่ผู้รับจ้างต้องทำให้แล้วเสร็จตามสัญญา เหลืออีก 156 วัน