เร่งทำฝนหลวง ช่วยเหลือเกษตรกรทุ่งกุลา หลังแล้งหนัก
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เร่งทำฝนเทียมช่วยสมาชิกสหกรณ์การเกษตร ในทุ่งกุลาร้องให้และพื้นที่ใกล้เคียง
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.62 ที่บริเวณโรงสีข้าวสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด สาขาบ้านนกเหาะ ต.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด นายทวี จงประเสริฐ รอง ผู้ว่าจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัยจํากัดและเกษตรกรทั่วไปในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ โดยมี ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ เกษตรกรชาวนาที่สนใจโดยเฉพาะ สมาชิกสหกรณ์การเกษตรฯ และเกษตรกรทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติร่วมงานจำนวนมาก
นางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด กล่าวว่า จากฝนทิ้งช่วงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2562 เป็นต้นมา ทำให้เกิดภาวะ ฝนแล้ง ทั่วพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ส่งผลกระทบต่อสมาชิกของสหกรณ์ การเกษตรเกษตรวิสัยจํากัด กว่า 9,000 ราย พื้นที่นาข้าว179,000 ไร่ ไม่มีน้ำเลย ถ้าในภายในเดือนนี้น้ำไม่มีฝนมา อาจจะส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง และส่งผลต่อปีการผลิตข้าวในปีหน้า เพราะทุ่งกุลาร้องไห้เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นดี สู่ครัวโลก ถ้าปีนี้เป็นอย่างนี้อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าที่คิด ซึ่งต้นข้าวแม้ขาดน้ำ คิดว่าข้าวจะยังไม่ตายทันที โดยเฉพาะการทำฝนเทียมถ้าหากมีฝนตกลงมาบ้าง ก็จะสามารถเลี้ยงต้นข้าวให้อยู่รอดรอฝนที่จะมาถึง จะทำให้ปัญหาลดลงได้
ขณะที่นางสาววาสนา วงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า ตอนนี้การปฏิบัติการของ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 4 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้โฟกัสมาที่ตอนกลางของภาค โดยเฉพาะทุ่งกุลาร้องไห้ที่แล้งหนัก และฝนที่ตกลงมาอาจยังไม่ครอบคลุมพื้นที่มากนัก และยังมีฝนตกน้อยอยู่ แม้เราได้มีการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย ขณะนี้เราประเมินผลการปฏิบัติทุกๆวัน นอกจากนี้หากมีสภาพอากาศมีความเหมาะสม มีเมฆเย็น และยอดเมฆยกตัวสูงเกินกว่า 20000 ฟุต เรามีเครื่องบินคิงส์แอร์ ประจำอยู่ที่โคราช ก็อาจปฏิบัติการเสริม โดยขึ้นบินสนับสนุนยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เพิ่มเติม จากการทำฝนหลวงปกติอีกส่วนหนึ่ง อาจทำให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น แต่อาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งเรามีการประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องทุกวันอยู่แล้ว