เริ่มทำการแล้ว 'ศาลอาญา-แพ่งมีนบุรี พระโขนง ตลิ่งชัน' ยกฐานะจากศาลจังหวัด
โฆษกศาล เผยยกฐานะศาลจังหวัด แยกสัดส่วนคดีแพ่ง-คดีอาญา แต่คงเขตอำนาจเดิมมีนบุรี พระโขนง ตลิ่งชัน เชื่อแยกประเภทคดี เพิ่มประสิทธิภาพศาลบริหารจัดการคดีตัดสินเร็ว 3 พื้นที่มีฟ้องมาก
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ศาลแพ่งพระโขนง ศาลอาญาพระโขนง ศาลแพ่งตลิ่งชัน และศาลอาญาตลิ่งชัน พร้อมเปิดทำการและพร้อมให้บริการแก่ประชาชนแล้ว โดยศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรี จะเปิดทำการ ณ อาคารศาลจังหวัดมีนบุรีเดิม ส่วนศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนง จะเปิดทำการ ณ อาคารศาลจังหวัดพระโขนงเดิม , ศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชัน จะเปิดทำการ ณ อาคารศาลจังหวัดตลิ่งชันเดิม
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การจัดตั้งทั้ง 6 ศาลนี้ เป็นการยกฐานะจากศาลจังหวัด ที่มีผู้บังคับบัญชาระดับผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ให้เป็นศาลที่จะมีผู้บังคับบัญชาระดับอธิบดีผู้พิพากษา ซึ่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ได้มีมติแต่งตั้ง คณะผู้บริหารศาลทั้ง 6 ศาล และคณะผู้พิพากษาของทุกศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารที่ทำการของศาลจังหวัด (มีนบุรี , พระโขนง , ตลิ่งชัน) 3 หลังเดิม ให้เป็นที่ทำการของศาลทั้งหก โดยแบ่งแยกการบริหารจัดการให้เป็นสัดส่วนโดยเฉพาะของแต่ละศาล พร้อมทั้งแต่งตั้งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของศาลต่างๆ ครบถ้วนแล้ว
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมความพร้อม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกัน คือสำนักงานอัยการสูงสุด , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กระทรวงยุติธรรม และสภาทนายความ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและรับทราบข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุง จนคิดว่าไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ ในการเปิดทำการของศาลใหม่ทั้งหก
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับพี่น้องประชาชนก็มั่นใจว่าได้รับทราบข้อมูล ที่ทยอยแจ้งมาเป็นระยะๆ แล้ว อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีเพียงการแยกศาลที่พิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาออกจากกันตามชื่อศาลเท่านั้น ส่วนเขตและอำนาจศาลยังคงเดิม คือเขตและอำนาจของศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีจะเป็นเขตและอำนาจเดียวกับศาลจังหวัดมีนบุรีเดิม , เขตและอำนาจของศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชัน จะเป็นเขตและอำนาจเดียวกับศาลจังหวัดตลิ่งชันเดิม , เขตและอำนาจของศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนง ก็จะมีเขตและอำนาจเดียวกันกับศาลจังหวัดพระโขนงเดิม โดยอำนาจในการพิจารณาคดีแพ่งก็คงเดิม คือพิจารณาคดีแพ่งที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ หรือคดีไม่มีทุนทรัพย์ และคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ หรือคดีมีทุนทรัพย์ เกินจาก 300,000 บาทขึ้นไป
ส่วนคดีอาญามีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี หรือปรับเกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำและปรับขึ้นไป ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องติดต่อราชการ กับศาลทั้งหก สามารถประสานได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้ ศาลแพ่งพระโขนง 02-745-5901 ถึง 9 , ศาลอาญาพระโขนง 02-183-5423 ถึง 31 ศาลแพ่งมีนบุรี , ศาลอาญามีนบุรี 02-171-4111 และ ศาลแพ่งตลิ่งชัน 02-448-4635 , ศาลอาญาตลิ่งชัน 02-448-4353 โดยหากประสงค์ จะดูเขตอำนาจของศาลทั่วราชอาณาจักร ก็ยังสามารถค้นหาข้อมูล ได้จากระบบค้นหาเขตอำนาจศาล ทาง https://pubdata.coj.go.th/jurisdiction/
“การจัดตั้งศาลทั้งหกศาลขึ้นมา ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคดีให้สอดคล้องกับปริมาณคดีในแต่ละประเภทที่ถูกฟ้องเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งภายหลังจากเปิดให้บริการแล้วคาดว่าการพิจารณาพิพากษาจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น” โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้บริหารศาลอาญา-ศาลแพ่งมีนบุรี , ศาลอาญา-ศาลแพ่งตลิ่งชัน , ศาลอาญา-ศาลแพ่งพระโขนงนั้น ทาง "คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต." ได้มีความเห็นชอบเมื่อเดือน พ.ค.62 ที่ผ่านมา ให้แต่งตั้งผู้พิพากษาระดับชั้นศาลอุทธรณ์ขึ้นไป มาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีศาลทั้ง 6 ศาลดังกล่าว เป็นชุดแรก ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศยกฐานะของศาลจังหวัดมีนบุรี , ศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลจังหวัดพระโขนง ให้มาเป็นศาลอาญาและศาลแพ่ง ในพื้นที่เขตอำนาจศาลทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ตามที่มีการประกาศเป็นกฎหมาย ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มี.ค.62 ที่ผ่านมา
ซึ่งผู้บริหารศาลอาญามีนบุรี ได้แต่งตั้ง “นายภิญโญ แสงภู่” รองประธานอุทธรณ์ภาค 1 เป็น อธิบดีศาลอาญามีนบุรี , นายนพรัตน์ อักษร ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นรองอธิบดีศาลอาญามีนบุรี , นางสุภาวิทยาอารีย์กุล ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ เป็น รองอธิบดีศาลอาญามีนบุรี
ส่วนผู้บริหารในศาลแพ่งมีนบุรี แต่งตั้ง “นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข” หัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ(แรงงาน) เป็นอธิบดีศาลแพ่งมีนบุรี , นายภมร สัตตภรณ์พิภพ ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีศาลแพ่งมีนบุรี ผู้บริหารในศาลอาญาตลิ่งชัน แต่งตั้ง “นายสนิท ตระกูลพรายงาม” รองประธานอุทธรณ์ภาค 1 เป็นอธิบดีศาลอาญาตลิ่งชัน , นางอัจฉรา สุระคำแหง ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีศาลอาญาตลิ่งชัน , นางจรีรัตน์ ตันติเวชกุล รองเลขาฯ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เป็นรองอธิบดีศาลอาญาตลิ่งชัน ส่วนผู้บริหารในศาลแพ่งตลิ่งชัน แต่งตั้ง “นายประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์” ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็น อธิบดีศาลแพ่งตลิ่งชัน , นายโตมร สิริวัฒน์ภากร ผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ (ภาษี) เป็น รองอธิบดีศาลแพ่งตลิ่งชัน
ผู้บริหารในศาลอาญาพระโขนง แต่งตั้ง “นายเชวง ชูศิริ” เลขาธิการประธานฎีกา เป็นอธิบดีศาลอาญาพระโขนง , นายจรูญ นาคเสน ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีศาลอาญาพระโขนง , นายดิลก เสริมวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นรองอธิบดีศาลอาญาพระโขนง ส่วนผู้บริหารในศาลแพ่งพระโขนง แต่งตั้ง “นายอดุลย์ ขันทอง” ผู้ช่วยผู้พิพากษาในศาลฎีกา เป็นอธิบดีศาลแพ่งพระโขนง , นายสุรพล นิตินัยวินิจ หัวหน้าศาลแรงงานภาค 2 เป็น รองอธิบดีศาลแพ่งพระโขนง โดยการแต่งตั้งดังกล่าว ให้มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป