นายกฯ กล่อมสภาธุรกิจสหรัฐฯ 47 บริษัทลงทุนไทย

นายกฯ กล่อมสภาธุรกิจสหรัฐฯ 47 บริษัทลงทุนไทย

2 มือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวเข้ามา นายกฯ กล่อมสภาธุรกิจสหรัฐฯ 47 บริษัทลงทุนไทย ยันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 – อีอีซี มีความต่อเนื่อง ชูบีโอไอออกมาตรการหนุนเต็มที่ “กอบศักดิ์” เผยไบเออร์พร้อมลงทุนตั้งศูนย์วิจัยในไทย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยภายหลัง สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา - อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council - USABC) จำนวน 106 รายจาก 47 บริษัท จาก 7 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1.พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน 2.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. สุขภาพและชีววิทยาศาสตร์ 4. อาหารและการเกษตร 5. การผลิต 6.บริการทางการเงิน 7.การท่องเที่ยว อาทิ บริษัท Amazon , Apple, ConocoPhillips, FedEx, Harley-Davidson, Johnson & Johnson, Marriott International, Mastercard, Netflix, Paypal และ Stripes เป็นต้น เข้าเยี่ยมคาราวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13-16 ส.ค.2562


นายกอบศักดิ์ กล่าวว่าบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ได้แสดงความมั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศไทย และพร้อมที่จะมีการลงทุนเพิ่มเติมในหลายธุรกิจ เช่น บริษัท ไบเออร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเยอรมันและสหรัฐฯ ได้แสดงความสนใจที่จะตั้งศูนย์เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D Center) ในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานใหญ่ข้ามชาติ (National Headquarter) ในประเทศแล้ว


นอกจากนั้นยังมีตัวแทนของนักธุรกิจในกลุ่มพลังงาน กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล เป็นตัวแทนของนักธุรกิจในการกล่าวหารือกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกคนได้แสดงความสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยโดยในวันที่ 16 ส.ค.สำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จะนำคณะนักธุรกิจไปดูพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมทั้งชี้แจงในเรื่องของสิทธิประโยชน์ในเรื่องการลงทุนต่อไป
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในการหารือระหว่าง USABC กับนายกรัฐมนตรีมีคณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมหารือหลายท่าน ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

2_13


โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะนักธุรกิจ USABC โดยปีนี้เป็นปีที่ 14 ที่ USABC นำคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เดินทางเยือนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความสำคัญของไทยต่อสหรัฐฯ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายมีพลวัตเชิงบวกต่อเนื่องทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยรัฐบาลยังคงมุ่งดำเนินการตามนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของเทคโนโลยีและนวัตกรรม การดำเนินการของรัฐบาลก่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมเห็นได้จากการจัดอันดับประเทศไทยโดยสถาบันต่างๆ ซึ่งสะท้อนว่าไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น และต่อยอดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 + 2 ประเภท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาขาที่สหรัฐฯ มีความเชี่ยวชาญ เช่น ภาคการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ยานยนต์และอากาศยาน เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการแพทย์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล
ด้านการลงทุน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนของไทย โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลง


ทุน (BOI) ได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2 ด้าน ได้แก่ มาตรการเพื่อการยกระดับประสิทธิภาพในการแข่งขัน และมาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้รัฐบาลยังเดินหน้าพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการลงทุนให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและการลงทุนของบริษัทต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC เนื่องจากมีฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว สามารถเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายคมนาคมทั่วประเทศ รวมทั้งเชื่อมต่อไปยังอาเซียนและภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการรองรับการลงทุนและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย นายกรัฐมนตรีจึงขอเชิญชวนให้บริษัทสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในพื้นที่ EEC ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการ


ด้านประธาน USABC แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์และแจ้งถึงแนวนโยบายเศรษฐกิจไทยภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ เชื่อมั่นในศักยภาพด้านเศรษฐกิจและมองเห็นโอกาสการลงทุนในไทย โดยการเยือนไทยครั้งนี้นอกจาก USABC จะได้พบผู้บริหารระดับสูงแล้วจะได้มีโอกาสเยี่ยมชมโครงการ EEC เพื่อแสวงหาการลงทุนและความร่วมมือระหว่างกันเพิ่มเติม นอกจากนี้ประธาน USABC ยังเชื่อมั่นว่าการเป็นประธานอาเซียนของไทยจะสามารถผลักดันอาเซียนให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง


ทั้งนี้ตัวแทนจากภาคเอกชนทั้ง 7 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้กล่าวยืนยันความพร้อมที่จะขยายการลงทุนที่สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 และยินดีส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้พร้อมรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมในสาขาที่สหรัฐฯ มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ความมั่นคงทางไซเบอร์ ความมั่นคงทางพลังงาน การลงทุนด้านวิจัยและนวัตกรรมด้านสาธารณสุขเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และที่สำคัญคือการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทยให้เกษตรกรมีรายได้ที่ยั่งยืน

3_8


“นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ USABC และนักธุรกิจสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ ถือเป็น “Friends of Thailand” ที่สำคัญ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยมายาวนาน หากมีสิ่งใดที่รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและแก้ไขข้อขัดข้องต่างๆ ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันได้ รัฐบาลยินดีรับฟังและให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับนักธุรกิจสหรัฐฯว่าขอให้มั่นในการลงทุนในไทย ขอให้สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา ไปดูพื้นที่อีอีซีก็ขอให้ตัดสินใจลงทุนโดยเร็ว” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว