กรุงศรีชี้เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง โอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยต่ำ หั่นจีดีพีเหลือ2.9%ส่งออกติดลบ2.8%

กรุงศรีชี้เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง โอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยต่ำ หั่นจีดีพีเหลือ2.9%ส่งออกติดลบ2.8%

ศูนย์วิจัยกรุงศรีชี้เศรษฐกิจอ่อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดไตรมาส2เศรษฐกิจดตต่ำสุดรอบ 5 ปี ส่งผลปรับจีดพีเหลือ 2.9% จาก 3.2% หลังคาดส่งออกมีแนวโน้มหดตัวรุนแรง 2.8% ปีนี้ เชื่อภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยใน2-3ไตรมาสข้างหน้า

     ล่าสุด ฝ่ายวิจัยกรุงศรี ได้มีออกบทความเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยระบุว่า จาก ความผันผวนภายนอกประเทศยังเป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต การคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกถูกปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยGDP เติบโตเพียง 2.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นอัตราที่ต่ำสุดนับแต่วิกฤติการเมืองในประเทศในปี 2014 ปัจจัยหลักมาจากการส่งออกที่หดตัว 5.8% ตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอแรงเกินคาดและผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 2.2% จาก 4.4%ในไตรมาสแรก

    แต่ขณะเดียวกัน การบริโภคในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ช่วยให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตในอัตราที่สูงกว่าระดับศักยภาพติดต่อกันนาน 6 ไตรมาส

   โดย ศูนย์วิจัยกรุงศรี ได้มีการปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจาก 3.2% เหลือ 2.9% ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่องและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความชัดเจนขึ้นและความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าส่งผลให้การส่งออกไทยมีแนวโน้มหดตัวรุนแรงขึ้นจาก-1.5% เป็น -2.8% นอกจากนี้ อุปสงค์ภายในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอ่อนแอกว่าที่คาด แม้เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลบวกจากมาตรการภาครัฐและนโยบายการเงินที่ยังมีแนวโน้มผ่อนคลายในระยะต่อไป     

   ส่วนระยะข้างหน้า ภาวะเศรษฐกิจไทย จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่นั้น จาก ตัวเลขเศรษฐกิจไทยล่าสุด ภายใต้แบบจำลองของวิจัยกรุงศรีระบุว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในช่วงช่วงชะลอตัว ขณะที่ระดับความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 15.7% ในไตรมาส 2 นับเป็นการเพิ่มขึ้น 11 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนได้ว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

   อย่างไรก็ตาม ความน่าจะเป็นที่คำนวณได้ยังไม่เกินระดับวิกฤติ ดังนั้น เศรษฐกิจไทยจึงยังไม่มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะ 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้เติบโตตามที่วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ที่ 3.2% และ 3.4% ตามลำดับ จะส่งผลให้ความน่าจะเป็นของการเกิดภาวะถดถอยขยับขึ้นมาอยู่ที่ 22.3% และ 17.2% ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างน้อยจนกระทั่งครึ่งหลังของปี2020

    ทั้งนี้ แม้ว่าความน่าจะเป็นของการเข้าสู่ภาวะถดถอยจะยังต่ำกว่าระดับวิกฤติที่40% แต่ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสมากขึ้นที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ โดยมาจากความเสี่ยงมาจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก

   วิจัยกรุงศรีวิเคราะห์ว่า ในกรณีเลวร้ายหากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง 1% เป็นเวลานาน 2 ไตรมาสหรือ 0.5% เป็นเวลานาน 4 ไตรมาส จะส่งผลให้ความน่าจะเป็นที่ไทยจะเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ทะลุระดับวิกฤติในไตรมาส 4 ปีนี้และไตรมาสแรกปีหน้าตามลำดับ หรืออีกนัยหนึ่งกล่าวได้ว่า ในกรณีที่เศรษฐกิจโลกเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก เช่น ความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่บั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกรุนแรง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020