สิ้น 'ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์' วัย 93 ปี ปิดตำนานนักชิมชื่อดัง
สิ้นศิลปินแห่งชาติ "ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์" วัย 93 ปี ปิดตำนานนักชิมชื่อดัง
เพจ "ครอบจักรวาล" แจ้งให้ทุกท่านทราบ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ได้ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 11.35 น. วันนี้ที่โรงพยาบาลเปาโล ขณะที่ เฟซบุ๊ค "ภาสันต์ สวัสดิวัตน์" ระบุว่า คุณชายถนัดศรีเพิ่งถึงแก่กรรมเมื่อ 11:35 น. ที่โรงพยาบาลเปาโลครับ
สำหรับ หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ วัย 93 ปี เป็นศิลปินแห่งชาติ นักแสดง นักร้อง นักเขียน และนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการแนะนำและจัดระดับความอร่อยของร้านอาหาร ในชื่อ "เชลล์ชวนชิม"
ทั้งนี้ เพจ "ครอบจักรวาล" ยังโพสต์ข้อความระบุว่า
ตามที่ผมได้รายงานอาการป่วยของคุณพ่อมาตลอดตั้งแต่ได้เข้าโรงพยาบาลมาเมื่อวันที่ 29 เดือนที่แล้ว โดยไม่ได้เรียนให้ทราบว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไร
บัดนี้ผมควรจะเล่าข้อ เท็จจริงของอาการและโรคของคุณชายและสาเหตุที่คุณพ่อได้มาอยู่ที่โรงพยาบาล
ในวันที่ 2 เดือนนี่ ได้ประชุมกับคณะแพทย์ที่ดูแลคุณพ่อหลังจาก ได้ไปทำ PET SCAN มาแล้วในวันที่ 1. ปรากฏว่า ผลของการตรวจออกมาไม่ดีเลย หากไม่ทำ PET SCAN ก็จะไม่ทราบเลยว่าคุณพ่อเป็นมะเร็ง ระยะสุดท้าย ที่เริ่มจาก ท่อน้ำดี และกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ทางลูกได้ปรึกษากับคุณหมอว่าควรจะดูแลคุณพ่อเช่นไร
เราเห็นพ้องต้องกันว่าการดูแลคุณพ่อควรจะเป็นไปตามอาการและ ไม่ให้คุณพ่อทรมาน และไม่ให้มีการผ่าตัดหรือเจาะอะไรเลย. ให้ประคับประคองไปจนถึงที่สุดและให้คุณพ่อไปอย่างสงบและไม่ทรมาน
ปัญหาของมะเร็งของคุณพ่อนั้นมันกระจายไปทั่วและที่สำคัญคือลามไปที่ปอด ทำให้คุณพ่อหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ. หากคุณพ่อมี่อาการเหนื่อยในการหายใจก็จะหมายความว่าคุณชายจะเริ่มทรุดลงแล้ว และต้องเริ่มให้ยามอร์ฟีน เพื่อบรรเทาความปวดและความเหนื่อย
ทางทีมแพทย์และลูกๆก็หวังว่าคุณพ่อจะอยู่กับเราได้ไประยะหนึ่งโดยยังไม่ต้องใช้ยามอร์ฟีน. ในระยะแรก ทางคุณหมอได้ให้ทางครอบครัวกราบบังคมทูลเจ้านายและ ผู้ใกล้ชิดคุณพ่อ ให้มาหามาเยี่ยมและมาลาให้เรียบร้อย ในขณะที่คุณพ่อยังแจ่มใสอยู่. และก็หวังว่าคุณชายจะอยู่กับเราไปได้นานหน่อย เพื่อนสนิดส่วนมากของคุณพ่อ คนที่เคารพคุณพ่อก็ได้มากันหมดแล้ว
คืนวันที่ 25 อาการคุณพ่อได้ทรุดลงอย่างเร็ว. ทางคุณหมอเริ่มให้ยามอร์ฟีนอ่อนๆก่อนเพื่อให้คุณพ่อไม่เหนื่อย และให้อาหารทางสาย. และมีการดูดเสลดออกจากปอด พ่นยา เพื่อให้คุณพ่อหายใจได้ สบายขึ้น
เช้าวันที่ 26 ลูกๆหลานๆเข้ามาดูอาการคุณพ่อ. คุณพ่อมีอาการปวด เพิ่มขึ้นและมีอาการบวมที่ท้อง. เพราะมะเร็งมันเริ่มที่ท่อนน้ำดี คุณหมอจึงให้ยามอร์ฟีนเพิ่มตามลำดับ. ความดันของคุณพ่อยังดีอยู่ในวันนั้นยังสงบดี
เช้าวันที่ 27 คุณพ่อ อาการทรุดลงอีก. มีเลือดออกมาในกระเพาะ. คุณหมอได้ล้างกระเพาะให้ แต่อาการปวด เริ่มมากขึ้นจึงให้ ยามอร์ฟีน. เพิ่มงดอาหารและน้ำ เหลือแต่น้ำเกลือและยามอร์ฟีน. ความดันเริ่มลดลงมาตามลำดับ. แต่ก็ถือว่ายังไม่ทรุดลงมากนัก
เมื่อคืนนี้ คุณพ่อปวดมากขึ้นตามลำดับ oxygen ลดลงมาเหลือ 94-96. บางครั้งก็ต่ำกว่านั้นเมื่อคุณพ่อกลั้นหายใจ ความดันลดลงมาที่ 106
ผมค้างที่โรงแรมใกล้โรงพยาบาลเปาโลเมื่อคืน และ มาที่ โรงพยาบาลแต่เช้า. คุณพ่อปวดมากขึ้น ร้องและดิ้นไปหมด. คุณหมอ เพิ่มยามอร์ฟีนไปที่ 4 มิลลิกรัม ต่อชั่วโมง เพิ่อคุณพ่อได้ไม่ทรมาน
การที่เราให้ยามอร์ฟีนกับคุณพ่อนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับความดันของคุณพ่อ. ขณะนี้เป็นระยะสุดท้ายแล้วที่ทางคณะแพทย์และลูกๆจะพยายามทำให้คุณพ่อไม่เจ็บปวด. และจากเราไปอย่าสงบและไม่ทรมาน เราเพียงแต่ดูอาการต่อไป. แต่ก็ต้องเริ่มทำใจสวดมนต์และเตรียมตัวสำหรับการจากไปของคุณพ่อที่เราทุกคนรักและ เทิดทูนเหนือส่งใดในชีวิต
จึงกราบเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน