ตำรวจนครบาล2 เร่งตรวจสอบ “อัตลักษณ์โครงกระดูก” ปริศนาในตึกร้าง ตร.คาดจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 เดือน โดยผู้ตายสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร คาดเป็นเพศชาย
ความคืบหน้ากรณีพบโครงกระดูกมนุษย์ในแท็งค์น้ำบนดาดฟ้าของตึกร้าง บริเวณด้านหลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตรงข้ามศาลอาญารัชดา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบ “อัตลักษณ์” และหาหลักฐานรวมทั้งพยานแวดล้อมในบริเวณจุดเกิดเหตุ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พลตำรวจตรีเอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฯ กำลังอยู่ในระหว่างรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลใด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลยืนยันตัวตนอย่างละเอียด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงสามารถทราบผล
ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายลงไปเสียชีวิต อยู่ภายในบ่อเก็บน้ำชั้นดาดฟ้า ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดๆทิ้ง และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยเบื้องคาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจเป็นบุคคลเร่ร่อนที่ขึ้นไปเพื่อพักอาศัย เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นอาคารรร้างไม่มีผู้ดูแล ซึ่งผู้เสียชีวิตอาจพลัดตกลงไป หรือลงไปเอง และหาทางขึ้นไม่ได้ ทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ส่วนประเด็นการฆาตกรรมนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ซึ่งจะต้องรอผลตรวจสอบพยานแวดล้อม และพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยรอบ เพื่อสอบพยานใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ว่ามีการแจ้งบุคคลสูญหายหรือไม่ พร้อมให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ก็ไม่ยืนยันว่ากล้องวงจรปิด ยังบันทึกภาพเอาไว้หรือไม่ เพราะผู้ตายได้เสียชีวิตมาเป็นเวลานานแล้ว
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ยังระบุในช่วงท้ายด้วยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ฯพบนายปัญญา บัวเงิน เจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบแสงสว่าง และจากการสอบถามทราบว่า ได้เข้ามาสำรวจอาคารช่วงช่องบันไดหนีไฟ เพื่อเตรียมติดตั้งแสงสว่าง และได้สำรวจช่องบันไดหนีไฟทุกชั้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงชั้นพาดฟ้า และพบถุงเท้า จากนั้นก็มาดูที่บริเวณแท็งค์น้ำก็พบโครงกระดูกมนุษย์ที่แห้งแล้ว ซึ่งก็รู้สึกตกใจและหวาดกลัวมาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบ แต่เนื่องจากพึ่งเข้ามาสำรวจได้แค่ 1 สัปดาห์ จึงไม่ทราบข้อมูลอะไร และไม่เคยพบเห็นผู้คนเข้าออกอาคารนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบอาคารดังกล่าว พบว่า แต่ละชั้นที่เป็นชั้นของอาคารจอดรถ 2-3 ชั้นแรก มีรถเข้ามาจอดเข้า-ออก ซึ่งจากการสอบถามพบว่า เป็นรถของเจ้าหน้าที่ฯ ที่มาทำงานที่ตึก คปภ. โดยจะนำรถมาจอดในช่วงเช้า จากนั้นในช่วงเย็นก็นำรถกลับออกไป สำหรับอาคารร้างแห่งนี้ มีความสูง 32 ชั้น ซึ่งร้างมาแล้วมากกว่า 10 ปี โดยที่ไม่มีการใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น
ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีพบโครงกระดูกมนุษย์ บนอาคารร้าง พื้นที่ สน.พหลโยธิน ว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 62 เวลาประมาณ 15.00 น. สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ ภายในแท้งค์น้ำ บนชั้น 32 อาคารร้างไม่มีชื่อ อายุกว่า 30 ปี ด้านหลังสำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ ทำแผนที่สังเขปแสดงที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมยังให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของผู้เสียชีวิตและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
ซึ่งจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบศพ ในลักษณะนอนเงยหน้า ใส่กางเกงใน หรือกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว สภาพศพแห้ง เปื่อยยุ่ย ติดโครงกระดูก สูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร ยังไม่สามารถระบุเพศได้ (สันนิษฐานว่าเป็นเพศชาย) คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในบริเวณที่เกิดเหตุพบรองเท้าผ้าใบ ถอดวางเรียงชิด มีผ้าปูวางรองไว้ในลักษณะเรียบร้อย และไม่พบเอกสารหรือบัตรแสดงตัวบุคลแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวน ได้ส่งศพไปยังนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอย่างละเอียด ประกอบกับตรวจสอบในฐานข้อมูลศูนย์รับแจ้งบุคคลสูญหายพลัดหลง
รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนและผลการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน โดยในชั้นยังไม่สามารถอาจเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ และ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนต้องเร่งคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน
สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลหรือทราบเบาะแสของผู้เสียชีวิต สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบ้ติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 1599 หรือ สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน หมายเลข 02-512-2447