ดีเอสไอประสานตร.สอบอดีตชุดจับ 'บิลลี่' หายตัว
"ดีเอสไอ" ลงพื้นที่สอบปากคำอดีต หน.ชุดสืบสวนคดี "บิลลี่" รับข้อมูล แกนนำกะเหรี่ยงไม่เคยถูกปล่อยตัว ขณะที่อธิบดีดีเอสไอ ยัน “บุญแทน” ยังไม่เป็นพยานในคดีประสานตร.ตรวจสอบปม หายตัว
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดี เอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี การเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ว่า ภายหลังการประชุมแบ่งชุดทำงาน แต่ละชุดปฏิบัติการได้แยกกันลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งสอบปากคำพยานบางปากให้สำนวนคดีมีความรอบคอบและรัดกุม โดยชุดสอบสวนขอเวลา1 สัปดาห์เพื่อเก็บข้อมูลและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดี ส่วนสำนวนเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับควบคุมตัวนายบิลลี่โดยมิชอบนั้นดีเอสไอกำลังรอสำนวนจากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คาดว่าคงใช้เวลาดำเนินการอีกไม่นาน
เมื่อถามถึงนายบุญแทน บุศราคัม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 1 ใน 4 ชุดจับกุมนายบิลลี่ ซึ่งหายตัวไป อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า. ตนไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบแต่เพียงว่านายบุญแทนขาดราชการไปหลายวันแล้ว ทั้งนี้ดีเอสไอยังไม่ได้สอบปากคำหรือนำตัวนายบุญแทนมาเป็นพยานในคดีแต่อย่างใด
ด้านพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอไอส กล่าวว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำพ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย อดีต รองผบก.สส.ภาค 7 หัวหน้าทีมสืบสวนคดีการหายตัวไปของนายบิลลี่ เนื่องจากพ.ต.อ.ไตรวิชมีหน้าที่รับผิดชอบคดีในช่วงเวลาดังกล่าว และมีข้อมูลว่านายบิลลี่ไม่ได้เคยถูกปล่อยตัว ตามคำเห็นที่ส่งสำนวนไปยังสำนักงานป้องกันแบะปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) ดังนั้นดีเอสไอจำเป็นต้องสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดี นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ลงพื้นสอบปากคำพยานปากอื่นๆ และเก็บข้อมูลในคดีอย่างต่อเนื่อง