ตัดสินประหารชีวิต 'ส.ส.นวัธ' คดีจ้างวานฆ่า อดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น
ด่วน! ศาลจังหวัดขอนแก่น ตัดสินประหารชีวิต "นวัธ เตาะเจริญสุข" ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ฐานจ้างวานฆ่า "สุชาติ โคตรทุม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่น ตัดสินประหารชีวิต นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ฐานจ้างวานฆ่าสุชาติ โคตรทุม อดีต ปลัด อบจ.ขอนแก่น เมื่อเดือน พ.ค. 2556
ความคืบหน้าคดี นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย จำเลยในคดีจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ล่าสุดศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 คนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุใช้ปืนยิงนายสุชาติ โคตรทุม เสียชีวิตที่บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 198/45 หมู่บ้านจอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1, พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม รอง ผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 2, นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3, นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน
ต่อมาศาลจังหวัดขอนแก่น ได้ออกหมายจับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 ขอนแก่น ในข้อหากระทำความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561
และวันนี้ศาลชั้นต้นจังหวัดขอนแก่น ได้นัดพิพากษาคดีจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุมอดีตปลัด อบจ.ที่นายนวัธ เตาะเจริญสุข ตกเป็นจำเลย และมีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 ศาลชั้นต้นของศาลจังหวัดขอนแก่นได้อ่านคำพิพากษาคดีจำเลยทั้ง 5 ราย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน โดยศาลพิพากษาให้ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยเหตุแห่งพฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตายมิใช่ลักษณะเตรียมพร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าจะเป็นการตั้งใจ เพราะถ้าเช่นนั้นต้องมีการลงมือทันที แต่ยังมีการพูดคุย มีการทำร้ายร่างกายก่อนลงมือยิง ดังนั้นจึงพิพากษาจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์ บรรเทาโทษให้ 1 ใน 4 รวมกับความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 3 รวมโทษจำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน
ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4 และ 5 ให้ปฏิเสธตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่า รู้มาก่อนว่าจำเลยที่ 2 และ 3 จะมาฆ่าผู้ตาย จึงให้ยกฟ้อง โดยให้ขังระหว่างอุทธรณ์