เลือกซ่อมนครปฐม เดิมพัน“โดมิโน”ล้มรัฐบาล?
จับเบอร์เสร็จเรียบร้อย สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 เตรียมเปิดศึกตามจังหวะการเมือง ที่วัดกันมากกว่าเก้าอี้ ส.ส. เพราะทั้งขั้วรัฐบาล-ขั้วฝ่ายค้าน ต่างมีศักดิ์ศรีค้ำคอกันอยู่
เรียงคนตามเบอร์ ประกอบด้วย เผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เบอร์ 1 สิริขวัญ แย้มมูล พรรคพลังสังคม เบอร์ 2 สุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เบอร์ 3 ลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 4 ปริมปรางค์ แสงสว่าง พรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 5 และ ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ เบอร์ 6
ที่น่าจับตา อยู่ที่ท่าทีของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ออกตัวหลบให้กับ “อนาคตใหม่” โดยไม่ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง หวังให้อนาคตใหม่เข้าวินแบบชิลๆ ไม่ต้องไปหั่นคะแนนกันเอง ทำเอา “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แฮปปี้ ยอมเสียจุดยืนการแข่งขันระบบประชาธิปไตย แต่ได้เก้าอี้ ส.ส.กลับมา ถือว่าคุ้มค่า
การต่อสู้กันเองใน “ขั้วฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะเพื่อไทย-อนาคตใหม่ ไม่มีออกมาให้เห็น แต่มีผู้สมัครของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้ามาร่วมแจม ก็ไม่ถือว่าเสียหาย เพราะคะแนนที่เทให้ “ลาวัลย์” คงไม่สะเทือนถึงขั้น ชี้แพ้-ชี้ชนะได้
เกมนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ยอมหลบให้อนาคตใหม่ เพราะต้องเก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์ ที่จะต้องคำนวณใหม่อีกครั้ง และมองว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมในอีกหลายเขต หากพรรคเสรีรวมไทยเก็บแต้มได้มากพอ ก็มีโอกาสที่จะได้ เก้าอี้ ส.ส.เพิ่มจากเดิม
“ขั้วฝ่ายค้าน” รอขย่ม “ขั้วรัฐบาล” อยู่ที่ว่าจะชนะ-แพ้ เท่านั้น ขณะที่เรื่องความเป็นเอกภาพยังเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน
และที่ต้องจับตาคือ “ขั้วรัฐบาล” แม้พลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้สมัครลงแข่ง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะหนุน “เพื่อนพรรคร่วม” จากค่ายไหน ระหว่าง “ชาติไทยพัฒนา-ประชาธิปัตย์” ซึ่งต้องเกาะติดกันให้ดี
ว่ากันว่า “กลุ่มสามมิตร” เข้าไปเสนอ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ให้หนุน “สุรชัย” ผู้สมัครจากค่ายปชป. เพื่อแลกกับคะแนน(ของ ปชป.) ที่จะหลีกทางให้ หากมีการเลือกตั้งซ่อม จ.ขอนแก่น
เขต 7 แทนที่ “นวัธ เตาะเจริญสุข” ส.ส.เพื่อไทย ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก
อย่างไรก็ตาม กรณีของ “นวัธ” ยังไม่แน่ชัดว่า จะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ เพราะยังไม่มีองค์กร ออกมาฟันธงสถานะของ “นวัธ” ซึ่งอาจจะต้องรอให้ กกต. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด โดย “กลุ่มสามมิตร” มั่นใจว่า หากจับมือกับ ปชป. มีโอกาสเพิ่มเก้าอี้ ส.ส.ได้
แต่ “พล.อ.ประวิตร” ผู้จัดการพรรค พปชร.ตัวจริง ไม่คล้อยตามคำหวานของ “กลุ่มสามมิตร” โดยยืนยันจะยกขบวนไปหนุน “เผดิมชัย” บ้านใหญ่นครปฐม
อย่าลืมว่า ก่อนเลือกตั้งมีภาพหลุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ออกรอบตีกอล์ฟกับตระกูล “สะสมทรัพย์” มาแล้ว แถม “ชาติไทยพัฒนา” คือพรรคเครือข่ายของสีเขียว “เบอร์หนึ่งกองทัพบก” ที่ "ดีลตรง" สั่งได้มาโดยตลอด หากปล่อยให้ “เผดิมชัย” แพ้ศึกเลือกตั้งซ่อมอีกครา คง “เสียหน้า” ไม่น้อย
ว่ากันว่า การเลือกตั้ง 24 มี.ค. “เผดิมชัย” เช็คกระแส-เช็คคะแนนเสียงแล้ว ไม่อาจจะสู้รบปรบมือกับความนิยมของ “อนาคตใหม่-พล.อ.ประยุทธ์” ได้ จึงยอมถอย ไม่ยิงกระสุนในช่วงโคงสุดท้าย ทำให้แพ้ศึกเลือกตั้งไปแบบ พลิกความคาดหมาย
นอกจากนี้ “เผดิมชัย” ยังได้กำลังเสริมจาก “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ซึ่งรับผิดชอบรอยต่อ เขตหนองแขม-อ.สามพราน มาช่วยดันอีกแรง ตามทุนเดิมที่ “เหลิมบางบอน” ไม่กินเส้นกับ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทย อยู่ก่อนแล้ว
และยิ่งเข้าทางเมื่อเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัครเข้าแข่งขัน ร.ต.อ.เฉลิม จึงไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง ออกแรงหนุน “เผดิมชัย” ได้เต็มที่
ฉะนั้นเดิมพันของ “เผดิมชัย” ในการสู้ศึกยึดพื้นที่คืนจาก “อนาคตใหม่-เพื่อไทย” จึงไม่ใช่ศึกของตระกูล “สะสมทรัพย์” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเดิมพันของ “ผู้มากบารมี” เครือข่ายแบ็คอัพของ “เผดิมชัย” ที่ต้องลงทุน-ลงแรง ไม่ให้เสียศักดิ์ศรี-เสียหน้า
ยิ่ง หัวหน้าอนาคตใหม่ “ธนาธร” ออกเคมเปญเลือกซ่อม เขต 5 นครปฐม “โดมิโนตัวแรกล้มรัฐบาล” หวังปั่นกระแสต่อต้าน “พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล” ยิ่งทำให้ทุกองคาพยพของ “ขั้วรัฐบาล” แพ้ไม่ได้ เพราะหากธนาธรจุดกระแสติด การเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่อื่น มีหวังกลายเป็น “โดมิโน” อย่างที่ออกเคมเปญกันเอาไว้
ดังนั้นศึกมวยแทน “เผดิมชัย” VS "ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร" ที่ฉากหน้าห้ำหั่นแย่งเก้าอี้ ส.ส.กันสองคน แต่ฉากหลังคือเดิมพันเกมอำนาจของ “ผู้มากบารมี”