"ฤทธิ์" ซามูไรคนสุดท้าย‘เอ็มเค’!! ต่อจิ๊กซอว์‘ฟู้ดเชน’รุกอาเซียน
การขับเคลื่อนธุรกิจของฟู้ดเชนยักษ์ใหญ่ “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเผชิญการเปลี่ยนแปลงสูงมากในหลายด้าน โดยเฉพาะ “ดิจิทัล ดิสรัปชัน” โจทย์ใหญ่! นำพาทั้งโอกาสและวิกฤติ!
ด้าน ยาสึฮิสะ ฟุคุดะ ประธาน เซนโค กรุ๊ป โฮลดิ้ง คัมปะนี ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านการส่งสินค้ามายาวนานกว่า 100 ปี กล่าวว่า การบริการด้านโลติสติกส์และซัพพลายเชน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศไทยศูนย์กลางของการค้าในภูมิภาคอาเซียน ธุรกิจหลายภาคส่วนมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อาหารเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก ทุกธุรกิจล้วนต้องการบริการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
โดย เอ็ม-เซนโค จะเป็นเซ็นเตอร์กระจายสินค้าไปยังเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทำงานเชื่อมกับเครือข่ายของเซนโคในประเทศต่างๆ อาทิ เวียดนาม เมียนมา ฯลฯ พร้อมผลักดัน เอ็ม-เซนโค ก้าวสู่ผู้นำการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิในอาเซียน
เบื้องต้น เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ เน้นให้บริการลูกค้าในภาคธุรกิจ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ผลิตอาหาร ธุรกิจนำเข้าและส่งออก ห้างค้าปลีกต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท อนาคตเตรียมขยายการให้บริการสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อย ในรูปแบบการส่งของสดแบบควบคุมอุณหภูมิ เช่น ผัก เนื้อสัตว์ เครื่องปรุง ส่วนผสม เพื่อการประกอบอาหาร ซึ่งในธุรกิจนี้ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก
ฤทธิ์ กล่าวต่อถึง บิ๊กเชนจ์!! ที่จะเกิดขึ้นกับเอ็มเค จากนี้ คือ การนำเทคโนโลยี ระบบดิจิทัล เอไอ เข้ามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ “ดิจิทัล ดิสรัปชัน”เป็นโจทย์ที่ต้องตีให้แตกว่าเข้ามาสร้างผลกระทบกับธุรกิจอาหารอย่างไรบ้าง!! ในเชิงอาหารไม่มีผลแต่สิ่งที่ต้องปรับคือ วิธีการ การนำเสนอ การนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างความสะดวก ประสบการณ์ และความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด คือ โอกาส!!
"การขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต การวางแผนระยะยาว 3 ปี 5 ปี แม้กระทั่งปีหน้า ไม่มีอีกแล้ว ธุรกิจต้องเตรียมตัวเองให้มีความพร้อมมากที่สุดเพื่อเปิดรับโอกาสและรับมือวิกฤติกที่เข้ามาได้ตลอดเวลา"
ความปลอดภัยขององค์กรเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่ต้องประกอบด้วยไปด้วย เตรียมความพร้อมทางด้านการเงินที่แข็งแรง เมื่อมีโอกาสดี ก็สามารถลงทุนได้ทันที มีกองทุนรองรับความเสี่ยง ดำเนินธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล ให้ความสำคัญในเรื่องของอาหารปลอดภัย และปลอดหนี้สิน
ขณะเดียวกัน “เรียนรู้” และมองหาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อรักษาความเป็น “ผู้นำ” เป็นแนวทางปฎิบัติของเอ็มเค เมื่อมีเทคโนโลยีเด่น จะต้องนำมา เล่น มาทดลองใช้ หากมีการตอบรับที่ดีจะมีการขยายตลาดต่อไป เช่น การสั่งอาหารด้วยแท็บเล็ต การใช้เครื่องทอนเงินอัตโนมัติ เริ่มทดลองอยู่ใน 10-20 สาขา ในเร็วๆ นี้ ทุกสาขาของเอ็มเคสุกี้จะไม่มีการใช้กระดาษเพราะเปลี่ยนวิธีสั่งผ่านคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตัวเองบนโต๊ะอาหาร “เอไอ” ยังเป็นเรื่องใหญ่ที่เอ็มเคกำลังจะก้าวไปจับ เพื่อนำข้อมูลของลูกค้ามาพัฒนาต่อยอดการตลาดแบบ
เฉพาะบุคคล สามารถสั่งอาหารได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่ต้องการ
ฤทธิ์ ในวัย 68 ปี ที่เปรียบตัวเองเป็นซามูไรคนสุดท้าย!! ยังคงนั่งกุมบังเหียนอาณาจักรเอ็มเค มูลค่า 18,000-19,000 ล้านบาท แม้อยาก “วางมือ” แต่ติดภารกิจ “สร้างคน” ซึ่งเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนองค์กร ที่ยอมรับว่าแม้วันนี้ ลูก-หลาน และผู้บริหารเจนเนอเรชั่นใหม่ เข้ามาช่วยงานไม่น้อยแต่เป็นในลักษณะของ “ฟังก์ชั่น” ขณะที่ตำแหน่ง ซีอีโอ!! จะต้องมองในภาพกว้าง องค์รวม แน่นอนว่า ฤทธิ์ พร้อมจะวางมือในจังหวะที่เหมาะสม!!