CONNEXT ED พลังเอกชนร่วมยกระดับโรงเรียน
ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ33 องค์กรเอกชน เดินหน้า CONNEXT ED ระยะที่ 3พัฒนาสมุดพกดิจิทัล ระบบการบริจาคออนไลน์ CONNEXT ED Crowdfunding ตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED และขยายเครือข่ายความร่วมมือภาคเอกชน
ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ33 องค์กรเอกชน ได้ประชุมนโยบายและแผนงานขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาไทย ภายใต้ "โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED" ประจำปี 2562 ซึ่งโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2559 โดย 12 องค์กรเอกชนชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กลุ่มเซ็นทรัล บมจ.ซีพี ออลล์ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กลุ่มมิตรผล:กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย และธุรกิจใหม่ กลุ่มปตท. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เอสซีพี บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ บมจ.ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เข้าร่วมยกระดับการศึกษาไทยสู่การสร้างเด็กดี เด็กเก่ง ของประเทศอย่างยั่งยืน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ / ประธานกรรมการ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน กล่าวว่า โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เป็นการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคน และเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ซึ่งจากการดำเนินการระยะแรกมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงระยะที่ 2 ปี2562 นี้ ได้มีการยกระดับการจัดการการศึกษาในโรงเรียนประชารัฐ จากโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศได้ถึง 4,781 โรงเรียน มีนักเรียนที่ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 1,047,660 คน
อีกทั้งขยายความร่วมมือจาก 12 องค์กรเอกชนชั้นนำผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ กับเครือข่ายพันธมิตรใหม่อีก 21 องค์กรเอกชน รวมเป็น 33 องค์กร มีผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ซึ่งเป็นพนักงานจิตอาสาจากองค์กรภาคเอกชน เพิ่มขึ้นเป็น 900 คน และองค์กรภาคเอกชน จัดสรรงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนประชารัฐ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 3,153 ล้านบาท ครอบคลุม 77 จังหวัด
ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินงานโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ในระยะที่ 3 (2562-2563) คณะทำงาน ยังคงยึด 5 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนและยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีแผนการดำเนินงาน ได้แก่ สมุดพกดิจิทัล พัฒนาระบบฐานข้อมูลและการจัดการสถานศึกษา School Management System ให้สามารถประมวลผลข้อมูลและแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนรายบุคคลในรูปแบบสมุดพกดิจิทัลที่จะช่วยให้ทราบจุดอ่อน จุดแข็ง ความถนัด ของนักเรียนแต่ละคน อันนําไปสู่การพัฒนาทักษะและส่งเสริมศักยภาพได้ตรงจุด
พัฒนาระบบการบริจาคออนไลน์ CONNEXT ED Crowdfunding จัดทําระบบบริจาคออนไลน์เพื่อระดมทุนสนับสนุนด้านการศึกษาสําหรับโรงเรียนที่ต้องการการสนับสนุนงบประมาณในด้านต่างๆ โดยระบบได้รวบรวมโครงการตามแผนพัฒนาคุณภาพโรงเรียนประชารัฐที่ผ่านการคัดกรองจากคณะทํางานส่วนกลางเพื่อให้บุคคลทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนทางการศึกษา
จัดทำมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ซึ่งจะเป็นคณะทํางานด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นํา เปลี่ยนสถานะเป็นมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ด้านการยกระดับคุณภาพการศึกษาพื้นฐานของประเทศ รวมทั้งจะมีการ Potential Partner หรือขยายโอกาสความร่วมมือไปยังองค์กรเอกชนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมโรงเรียนประชารัฐที่ยังต้องการการดูแลจากองค์กรเอกชน จํานวน 2,124 โรงเรียน โดยปัจจุบันมีโรงเรียนภายใต้ความดูแลของภาคเอกชน จํานวน 2,657 โรงเรียน จากจํานวนทั้งหมด 4,781 โรงเรียน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่าจากการหารือกับกลุ่มภาคเอกชนในการดำเนินโครงการดังกล่าว สิ่งที่ต้องการสนับสนุนจากภาครัฐ นั้น หกมีทั้งหมด 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1. Transparency ความคาดหวังต่อโครงการและภาพความสำเร็จที่ภาครัฐอยากเห็น จัดทำ KPI วัดคุณภาพของโรงเรียนร่วมกัน พร้อมร่วมประเมิน ถอดบทเรียน สนับสนุนการเก็บข้อมูลโรงเรียนในระบบโรงเรียนประชารัฐ กำกับ ติดตามเอกสาร E-donation อย่างเข้มงวด Tax Bonofit การบริจาคเพื่อการศึกษาให้สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้เกิน 10% ของกำไรสุทธิ
2.Market Mechanisms สนับสนุนนาทีโฆษณาในช่วง Prime time (1 นาที) เพื่อเผยแพร่ ความรู้ด้านการศึกษา สนับสนุนนโยบายสร้างการมีส่วนร่วมของภาคอาชีวะ/อุดมศึกษา สื่อสารข้อมูลโครงสร้าง/ประโยชน์ที่โรงเรียนจะได้รับในมุมมองของภาครัฐ(ไม่ได้เพิ่มภาระ) ร่วมทำ matching fund ในระบบการบริจาคออนไลน์ (เช่น รัฐ:เอกชน 1:1)
3. High Quality Principals&Teachers กำหนดให้ผอ.ต้องดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 5 ปีเพื่อความต่อเนื่องของโครงการ มีการให้คุณให้โทษแก่ผอ.และครู สร้างแรงจูงใจให้ครูร่วมโครงการ อาทิ การให้ incontive/การปรับวิทยฐานะเมื่อทำผลงานสำเร็จ เพิ่มทักษะ coaching และfacilltator แก่ครู แก้ไขการขาดแคลนครูวิชาการเอกหรือปรับการผลิตครูให้สอน
4.Child Centric& Curriculum เน้นการพัฒนาครูด้านการสอนแบบ Child Contrio ประเมินผลอย่างจริงจัง การสนับสนุนกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต ส่งเสริมให้ครูออกแบบหลักสูตรได้เอง ที่มีการบูรณาการบริบทของชุมชนให้เข้ากับวิชาการ ทักษะอาชีพ
5.Digital Infrastructures สนับสนุนการขยายเครือข่าย Internet สู่ทุกห้องเรียน สนับสนุนงบซ่อมบำรุงอุปกรณ์ ICT ต่างๆ จากโครงการ สนับสนุนการจัดจ้างบุคลากรด้าน ICT ประจำโรงเรียน สนับสนุนโครงการบริจาคคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียน