เตือน! ห้ามนำน้ำมันกัญชาเข้าญี่ปุ่น หลังคนไทยถูกจับ
บิ๊กปปส. เตือนให้ระวัง ห้ามนำน้ำมันกัญชาเข้าญี่ปุ่น หลังหนุ่มไทยถูกจับที่เมืองซับโปโร
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น ประจำท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เมืองซับโปโร กุมจับชายไทย พร้อมยางกัญชา และน้ำมันกัญชาน้ำหนักประมาณ 25 กรัม เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางสำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ทราบว่า ชายไทยดังกล่าวลักลอบนำยางกัญชาและน้ำมันกัญชาเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยบรรจุในตลับขนาดเล็กและใส่ในกระเป๋าสัมภาระ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อถูกตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว ก็รับว่านำติดตัวมาใช้ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นกัญชายังถือเป็นยาเสพติด จึงถูกจับดำเนินคดี
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส กล่าวว่า กฎหมายได้ผ่อนปรนให้ใช้กัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้ โดยผู้ป่วยจะต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค และสั่งให้ใช้ยาที่มีกัญชา หรือสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนผสมเพื่อการรักษาโรค ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นตามกฎหมายที่จะสามารถครอบครองและใช้ยาที่แพทย์สั่งได้โดยไม่ถือเป็นความผิด ทั้งนี้ กัญชายังมีสถานะเป็นยาเสพติดให้โทษ ดังนั้นการผลิต ปลูก นำเข้า-ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองกัญชา หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. จะมีความผิดตามกฎหมาย การนำสารสกัดจากกัญชาออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงมีความผิด และแม้ว่าจะสามารถเล็ดรอดออกไปได้หากประเทศปลายทางตรวจพบ ก็ยังคงมีความผิดดังกรณีที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายผ่อนปรนให้ใช้ประโยชน์กัญชาได้เฉพาะทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้ประชาชน กลุ่มบุคคล หรือองค์กรใดที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ได้ติดต่อสอบถามข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ สำนักงาน ป.ป.ส.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เตือนพก 'น้ำมันกัญชา' เข้าประเทศ ถูกจับคดียาเสพติด
-เปิดตัว 'คาเฟ่กัญชา' แห่งแรกในแอลเอ
-บิ๊กป.ป.ส.ย้ำ 'กัญชา-กัญชง' ยังเป็นยาเสพติด
-'กัญชา' แปลงแรกออกดอก ผลิตยา 2500 ขวด