ยะโฮร์ผุดเมกามอลล์ ดึงนักช็อปสิงคโปร์
ห้างสรรพสินค้าใหญ่ระดับเมกามอลล์ กำลังผุดขึ้นมากมายในรัฐยะโฮร์ ทางภาคใต้ของมาเลเซีย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการวางผังเมืองใหม่ และนโยบายเพิ่มการจ้างงานคนในพื้นที่ แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าในอนาคตห้างใหญ่ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดจะอยู่รอดหรือไม่
เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ขณะนี้นักช็อปในรัฐยะโฮร์ กำลังรอคอยห้างสรรพสินค้าระดับเมกามอลล์แห่งใหม่ “ท็อปเพ็นชอปปิงเซ็นเตอร์” ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 13 พ.ย. ห้างขนาด 4 ชั้นแห่งนี้มีร้านค้าราว 300 ร้านและเชื่อมไปถึงห้างอิเกียเตอเบราได้
ภายในมีทั้งร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิสก์รายใหญ่ โรงภาพยนตร์ 1 โรงซูเปอร์มาร์เก็ตหรู 1 แห่ง และสนามกีฬาอีสปอร์ต 1 สนาม หากรวมพื้นที่ทั้งท็อปเพ็นและอิเกีย อยู่ที่ 1.2 ล้านตารางฟุต เท่ากับสนามฟุตบอล 16 สนาม
ที่เก๋ไปกว่านั้นคือท็อปเท็นยังมีพื้นที่ดาดฟ้าเปิดโล่งให้ลูกค้าขึ้นไปนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม วัยรุ่นประชันลีลาสเก็ตบอร์ด หรือเด็กๆ ได้สนุกสนานกับสวนน้ำ
ท็อปเท็นในเครืออิเกียมั่นใจว่า แนวคิดการรวมกิจกรรมทุกอย่างไว้ในที่เดียวจะดึงดูดนักท่องเที่ยวในยะโฮร์ รวมถึงจากสิงคโปร์ได้
“การผสมผสานฟีเจอร์ที่เป็นยูนีค ไม่ว่าพื้นที่ว่างสุดแฟนตาซี ร้านค้าเช่าที่หลากหลาย และความเป็นอิเกียเพียงแห่งเดียวทางภาคใต้ของมาเลเซีย จะดึงลูกค้าจากที่ไกลๆ ได้ ซึ่งการเป็นพื้นที่ให้ผู้คนมาสนุกสนานกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง จัดการธุระ ชอปปิง หรือจะแค่มาแฮงก์เอาท์ กิจกรรมเหล่านี้จะสร้างชื่อทำให้ลูกค้ากลับมาท็อปเพ็นอีก” โฆษกอิเกียประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผย
รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะโฮร์เองก็มั่นใจว่า ห้างท็อปเพ็นจะดึงดูดนักช็อปจากที่ไกลๆ ได้เช่นเดียวกับเมกามอลล์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพาราไดม์, เซาท์คีย์มิดวัลเลย์, อิออนเตอเบราซิตี้, เจบีซีซีคอมตาร์ และเจบีซิตี้สแควร์ ที่ไปได้ดีกับธีมห้างทันสมัย
เหลี่ยว ไซ่ ตง คณะกรรมการบริหารสภาการท่องเที่ยวยะโฮร์เผยกับแชนเนลนิวส์เอเชีย มั่นใจในศักยภาพการดึงลูกค้าของท็อปเพ็น ตอนนี้ร้านค้าสนใจเช่าพื้นที่ไปเกือบ 85% แล้ว เป็นสัญญาณดีว่าร้านค้าปลีกยอมรับศักยภาพของทำเลและลูกค้าที่จะเข้าห้าง
สำหรับพาราไดม์มอลล์ที่เปิดไปก่อนหน้าตั้งแต่เดือน พ.ย.2560 ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากนักช็อปและร้านค้าปลีก ดับเบิลยูซีทีโฮลดิงส์ ผู้บริหารห้างเผยว่า ไตรมาสแรกของปีนี้พาราไดม์ทำกำไร 40 ล้านริงกิต กำไรจากการปฏิบัติการเพิ่มขึ้นเป็นผลจากมีผู้เช่าพื้นที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้มีสัญญาณบวกแต่ไม่มีอะไรรับรองได้ว่า ห้างเหล่านี้ยังครองกระแสตอบรับดีแบบนี้ไว้ได้ภายใน 10 ปี
โรเบิร์ต ลี ชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาซื้อของชำที่เมืองยะโฮร์บารูสัปดาห์ละครั้ง มองว่า ท็อปเพ็นก็เป็นแค่ห้างหนึ่งในหลายๆ ห้างของยะโฮร์
“เมกามอลล์ที่อื่นก็มี สินค้าก็คล้ายๆ กัน ผมคิดว่าพอคนเลิกเห่อก็ไม่มาอีก ไม่กี่ปีก็คงพบจุดจบเหมือนกับอ้างอื่นๆในยะโฮร์บารูที่ไม่มีคนเดิน” นักธุรกิจสิงคโปร์ให้ความเห็น
นันทกุมาร โลกานาทัน ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าเป็นแนวคิดที่ตายแล้วด้วยน้ำมือของการชอปปิงออนไลน์
“ที่ผ่านมาเราเห็นหลายห้างในยะโฮร์บารูล้มเหลว ลูกค้าน้อย รายได้ไม่พอ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผู้คนหันไปชอปปิงออนไลน์แทนที่จะใช้เวลามาเดินห้าง”
แต่นักวิชาการรายนี้สังเกตว่า รัฐยะโฮร์เพิ่งปรับยุทธศาสตร์การวางผังเมือง กำหนดทำเลให้ห้างสรรพสินค้าทั้งหลายมาอยู่ใกล้กัน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน มีทางเลือกในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้น
“คล้ายๆ กับการวางผังเมืองของกรุงกัวลาลัมเปอร์ กำหนดให้ห้างอยู่รวมกันในจุดหนึ่ง ไม่กระจายไปทั้งเมือง ผมคิดว่าวิธีนี้จะดึงชาวสิงคโปร์มายะโฮร์ได้มาก เพราะได้มาซื้อของกินของใช้ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า อื่มกินครบสูตรในที่เดียว”
อิเกียเผยว่า กลยุทธ์เชื่อมร้านค้าของตนเข้ากับห้างสรรพสินค้าเป็น “สูตรแห่งชัยชนะ” ห้างอิเกียในกัวลาลัมเปอร์ทำแบบนี้จนได้ตัวเลขการเติบโตระดับสองหลักในปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นตัวเลขผลตอบแทน รวมทั้งรายได้ค่าเช่าจากชอปปิงเซ็นเตอร์ 2 แห่ง เติบโต 15% จากปีก่อนหน้า
อิเกีย ประเมินว่า ห้างท็อปเพ็นจะว่าจ้างแรงงาน 5,000 อัตราในยะโฮร์บารู สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลมาเลเซียที่ต้องการสร้างงานให้กับชาวท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อไม่ต้องไปหางานทำในสิงคโปร์
“เหตุผลสำคัญว่าทำไมคนยะโฮร์ถึงออกไปทำงานที่อื่น ก็เพราะที่นี่ไม่มีงานมั่นคง จึงเป็นเรื่องดีหากพวกเขาได้ทำงานในห้างสรรพสินค้าอย่างท็อปเพ็น แล้วมีส่วนสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น”