ดัน 'อภิสิทธิ์' นำทีมแก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้าน-ปชป.ประสานเสียง หนุนนั่งประธานกมธ.

ความคืบหน้ากรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)และวิปฝ่ายค้านสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น วันเดียวกันนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป.กล่าวถึงความพร้อมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 ในวันที่ 6 พ.ย.62 ว่า ในวันที่ 5 พ.ย. พรรคปชป. ได้นัดประชุม ส.ส. ในเวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสภา โดยเฉพาะญัตติด่วนเรื่องการศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเป็นข้อตกลงที่ทำให้ ปชป.ตอบรับเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้า ปชป. เป็นประธานคณะกรรมาธิการศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายราเมศ กล่าวว่า เบื้องต้นพรรค ยังไม่ได้หารือกัน จึงขึ้นอยู่กับที่ประชุม ส.ส.พรรคว่า จะเสนอชื่อบุคคลใด ซึ่งนายเทพไทมีสิทธิเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ได้ 

จากการหารือกับคณะทำงาน ปชป.มีสัดส่วน กมธ.ชุดนี้ 4 คน จึงมั่นใจว่าในการประชุมส.ส.พรรควันที่ 5 พ.ย.นี้ จะทราบรายชื่อ กมธ.ในสัดส่วนของพรรคอย่างแน่นอน และนายเทพไทก็สามารถเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ให้ที่ประชุมพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้พรรคยังไม่เคยมีการปรึกษาหารือกันมาก่อน และจะต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์ด้วย

ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้า ปชป.กล่าวว่า กรณีที่วิปฝ่ายค้านสนับสนุนนายอภิสิทธิ์นั่งประธาน กมธ. แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มองว่าเหมาะสมแล้ว เนื่องจากนายอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองมานาน เคยเป็นทั้งหัวหน้าพรรค ปชป. อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความรอบรู้ทุกด้าน มีคุณสมบัติพร้อมซึ่งคนในพรรค ปชป.ก็เห็นด้วยทั้งนั้น

• “เทพไท” ขอบคุณ “วันนอร์” หนุน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. กล่าวถึงกระแสการผลักดันให้นายอภิสิทธิ์ เป็นประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ต้องขอขอบคุณนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่นำเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา นายวันมูหะหมัดนอร์เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง ผ่านการเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง เคยเป็นประธานรัฐสภามาแล้ว คงเล็งเห็นว่านายอภิสิทธิ์มีความเหมาะสมกับการเป็นประธานกมธ.วิสามัญชุดนี้ เพราะเคยเป็นนายกฯ มาก่อน มีบารมีและประสบการณ์ในทางการเมืองสูง มีความรู้ความสามารถในทุกๆ ด้าน 

ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์มีจุดยืนด้านประชาธิปไตยที่ชัดเจนคนหนึ่ง และสามารถใช้เวลาช่วงที่ไม่ได้เป็นส.ส.ทุ่มเทให้การทำงานเรื่องรัฐธรรมนูญได้อย่างเต็มที่ แต่เรื่องดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ และตัวของนายอภิสิทธิ์ด้วย เพราะ ปชป.มีขั้นตอนในการทำงานที่ชัดเจน

“ขณะนี้พรรคปชป.กำลังรอผลการประชุมของวิปรัฐบาลก่อนว่าจะกำหนดจำนวนกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้กี่คน และพรรคปชป.ได้สัดส่วนกรรมาธิการกี่คน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมส.ส.เพื่อคัดเลือกผู้เหมาะสมกับการเป็นกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ หากที่ประชุมส.ส.ของพรรคมีการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ และมติที่ประชุมเห็นชอบ เป็นหน้าที่ของประธาน ส.ส.คือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นผู้ไปทาบทามนายอภิสิทธิ์ด้วยตนเอง" 

"ผมเชื่อว่าในพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้เหมาะสมมีความรู้สามารถในเรื่องรัฐธรรมนูญหลายคน ซึ่งพรรคต้องคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม และมีประสบการณ์ทางการเมืองมากที่สุด เพื่อเข้าทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ไม่อยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกกล่าวหาว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่คนเขียนไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้เขียน จึงอยากให้นักการเมืองในฐานะผู้ปฏิบัติโดยตรงมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย ซึ่งรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ในส่วนของพรรคปชป.จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว

• “พปชร.”หาบุคคลนั่งกมธแก้ไขรธน.

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่มีการขอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหา และแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2562 ว่า กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นอยากให้มองเพียงแค่นี้ก่อน ยังไม่อยากให้มองไปถึงตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ เพราะประเด็นนี้ทางพรรคจะต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปเสียก่อน โดยจะมีการประชุมกันในวันอังคารที่ 5 พ.ย.ว่า จะพิจารณาให้บุคคลใดมาเป็นคณะกรรมาธิการฯ

 

• "สุดารัตน์" หนุนปชป.ร่วมกันแก้รธน.

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการตั้ง กมธ. วิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติเพื่อบรรจุและพิจารณาในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ว่า พรรคจะเข้าไปชี้แจงเหตุผลเพื่อขอการตัดสินใจ และเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยเลือกตั้งบุคคลผู้มีความเชี่ยวชาญแต่ละวิชาชีพ มาเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศแก้ไขรัฐธรรมนูญใน ส.ส.ร. 

ทั้งนี้ วิธีการที่ง่ายที่สุดส่วนตัวเห็นว่าถ้าปลดล็อก มาตรา 256 เพียงมาตราเดียวก็จะสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการขจัดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม และการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้อง กุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เป็นจริงได้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกัน และหากมีองค์กรภาคประชาสังคมมารวมกันแก้ก็จะยิ่งดี โดยส่วนตัวคิดว่าสามารถทำงานร่วมกันได้เนื่องจากทิศทางมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ก็ควรทำงานสอดประสานกันเพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน

เมื่อถามถึงกระแสการผลักดันนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกฯ เป็นประธาน กมธ.ศึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็มีสิทธิ เพราะกมธ.วิสามัญสามารถเป็นคนนอกได้ ส่วนแนวทางของพรรค พท.และ ปชป.จะไปด้วยกันได้ใช่หรือไม่นั้น หวังว่า ถ้าเรามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาจากรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ ถ้าเห็นตรงกัน จริงใจตรงกัน ก็มีทางเดียวคือ เดินไปปลดล็อกมาตรา 256 

ซึ่งตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกพรรคที่ได้ให้สัญญากับประชาชน และมองเห็นปัญหาว่ารัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศร่วมกันและเป็นปัญหาต่อการหยิบยื่นโอกาสให้ประชาชนอย่างทัดเทียมกัน ก็มาร่วมกันแก้ เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เป็นการทำเพื่อประชาชนร่วมกัน

• อนค.รับได้อภิสิทธิ์นั่งประธานกมธ.

ส่วน พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงข้อเสนอที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานกมธ.วิสามัญ ศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา กมธ.ชุดนี้เป็นวิสามัญ สามารถมีคนนอกเข้ามาร่วมเป็นได้ คิดว่าทุกฝ่ายคงยินดีหากได้คนหลายๆ ฝ่ายหลายๆ กลุ่มเข้ามาร่วมพิจารณาและให้ความเห็นกัน น่าจะเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ข้อมูลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ การเปิดประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า จะมีญัตติเรื่องการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำ คำสั่งและประกาศของคสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 นี่เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่เราจะต้องทำ ที่ผ่านมา 5 ปี คสช.ที่มาจากการยึดอำนาจใช้อำนาจหลายๆ อย่างที่กระทบต่อประชาชน เราต้องมาดูกันว่าอะไรที่กระทบต้องยกเลิก แต่บางอย่างที่ดีอาจจะคงไว้ได้ การตั้งกมธ.นี้เหมือนการปลดล็อกพันธนาการขั้นแรก ถ้าทำได้ก่อนจะทำให้เรื่องอื่นๆ ราบรื่นและผ่านไปได้ด้วยดี

• ฝ่ายค้านย้ำ 20 ธ.ค.ยื่นเปิดซักฟอก

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงกรอบการพูดคุยกันระหว่างวิป 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านในวันอังคารที่ 5 พ.ย.ว่า จะเป็นการประชุมขั้นเริ่มต้นก่อนว่า แต่ละคนมีความเห็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรือใครมีข้อมูล เนื้อหาอย่างไรบ้าง โดยหลังจากการประชุม เราจะเริ่มกำหนดประเด็น และมอบหมายว่าให้บุคคลใดอภิปรายเรื่องใด หรือรับผิดชอบเนื้อหากระทรวงไหน โดยเราจะพูดคุยหารือกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้สมบูรณ์ และพร้อมที่สุด ก่อนปลายเดือนพ.ย.จะมาสรุปกัน เพื่อไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค.จะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-จ่อชง 'อุตตม' พิจารณา 'ธนาธร'​ นั่งกมธ. ได้หรือไม่

-ขอ 'ชวน' ชี้ 'ธนาธร' นั่งกมธ.งบฯ63 สภาฯ ได้หรือไม่

-ดีเดย์ 29 ต.ค. 'กมธ.ตามงานปฏิรูป ส.ว.' เริ่มประชุม

-'ชวน' ติง 'กมธ.ปราบโกง' ให้เกียรติ คนที่ถูกเชิญมาชี้แจง

-กมธ.ตั้ง 5 อนุฯปรับเกลี่ยงบ63 เผยผลชำแหละงบ