ต่อยอด IoT สู่ธุรกิจแบบ IoP
ธุรกิจต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หยุดนิ่งไม่ได้ อย่างปัจจุบันต้องก้าวเข้าในยุค IoT ที่เอาอินเตอร์เข้ามาใช้ในสิ่งต่างๆ แต่อนาคตคงไม่เพียงพอ ต้องไปถึง IoP หรือการนำอินเตอร์ไปใช้ถึงขึ้นตอนกระบวนการ เช่น ตู้เย็นสามารถวิเคราะห์และสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าได้
เชื่อว่าหลายคนเริ่มรู้จัก ได้ยิน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IoT หรือ Internet of Thing ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ประเด็นก็คือสิ่งนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ วิถีการใช้ชีวิต รูปแบบทางธุรกิจ วิธีการทำงาน หรือแม้แต่การพักผ่อน
ถ้าจะบอกว่าสมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์หลักสำคัญที่ทำให้เชื่อมเราเข้ากับคนอื่นในสังคม ช่วยย่นย่อระยะทาง ลดเวลาที่สูญเสียไปกับการดำเนินการใดๆ ในชีวิตและการทำงาน ทำให้เราสามารถทำหลายสิ่งพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน โดยตั้งเวลาล่วงหน้าหรือสั่งการทางไกลโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปอยู่ ณ สถานที่นั้น และตรวจติดตามความก้าวหน้าหรือสถานะของสิ่งต่างๆ ได้
IoT ก็ไม่ต่างจาก Smart Phone เพียงแต่มันสามารถเชื่อมสิ่งที่ไม่มีชีวิต อาทิ เครื่องจักร อุปกรณ์ จนกระทั่งถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ความจริงแล้วมันไม่ใช่สิ่งใหม่แต่มีมานานแล้วตั้งแต่ในอดีตในชื่อ Embedded System แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผนวกเข้าไว้ในเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแสดงสถานะและควบคุมการทำงานของมัน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ รถยนต์ และเครื่องจักรในโรงงาน เพียงแต่ถูกใช้งานในวงจำกัดและขีดความสามารถยังไม่กว้างขวางมากนัก และด้วยพัฒนาการด้านดิจิตัลที่สูงมากขึ้น ทำให้แผงวงจรเล็กๆนี้มีความสามารถมากขึ้นในการคิดคำนวณและประมวลผล จึงมักเรียกว่า "สมองกลฝังตัว"
ปัจจุบันเมื่อ Embedded System เชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย ทำให้มันสามารถไปฝังตัวอยู่ในอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องต่อสายไฟ และด้วยความสามารถใหม่นี่แหละจึงเรียกมันว่าเป็น Internet of Thing (IoT) ที่สำคัญมันทำให้สิ่งที่ไม่มีชีวิต เสมือนว่ามีชีวิตและสามารถสื่อสารพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง รวมถึงสื่อสารกับคนด้วย
แต่เมื่อมองในบริบทของประโยชน์ในทางธุรกิจ จะหยุดเพียงแค่นำ IoT เข้าไปติดตั้ง หรือฝังเป็นส่วนหนึ่งเครื่องจักรในโรงงานหรืออุปกรณ์ในบ้านอย่างเดียวไม่พอ หากแต่ต้องมองในมุมของกระบวนการทางธุรกิจด้วย นั่นคือ IoT ที่เข้าไปแทรกอยู่ในสิ่งต่างๆ เมื่อเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นกระบวนการจะทำให้ผลิตภาพโดยรวมสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นอย่าหยุดแค่ IoT แต่ต้องมองต่อให้เห็นเป็นภาพใหญ่ที่เรียกว่า IoP หรือ Internet of Process
"องค์กรต่างๆ สามารถสร้าง IoP ขึ้นมาได้อีกมากมายและมันจะกลายเป็นบริการที่ชาญฉลาด"
ยกตัวอย่างกระบวนการเลือกซื้อสินค้าและของใช้ในบ้านของคุณแม่บ้าน ถ้ามองย้อนกลับไปในกระบวนการดั้งเดิม ทุกบ้านจะต้องใช้เวลาในการไปเลือกซื้อสินค้าและของใช้ต่างๆ ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าของชำใกล้บ้าน บางคนอาจจะจดรายการสินค้าที่จะต้องซื้อใส่กระดาษและไปเดินเลือกหยิบจากในร้านด้วยตัวเอง และเมื่อเดินเลือกซื้อสินค้าใส่รถเข็นจนครบแล้ว ก็จะเดินออกมาที่ช่องชำระเงิน ก่อนจะขนขึ้นรถกลับมาเก็บที่บ้าน
ปัจจุบันหลายบ้านอาจจะไม่เดินทางไปที่ศูนย์การค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยตัวเองแล้ว หากแต่สั่งสินค้าที่ต้องการผ่านแอพบนสมาร์ทโฟน และร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นๆ จะจัดเตรียมสินค้าตามที่เราสั่ง บรรจุและนำขึ้นรถขนส่งมาที่บ้านเรา อาจจะสัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง ไม่ต่างจากการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์อีกมากมายที่เราคุ้นเคยกัน
แต่ตู้เย็นรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน เริ่มฝังหรือติดตั้ง IoT เข้ามาด้วย นั่นหมายความว่ามันไม่ได้แค่ทำความเย็นและรักษาคุณค่าของอาหารเท่านั้น คือถ้าเชื่อมต่อมันเข้ากับสัญญาณ WIFI และตู้เย็นรุ่นใหม่นี้มีหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ด้านหน้าของประตูที่เปิด สินค้าที่ถูกจัดเก็บเข้าไปในตู้เย็นจะได้รับการสแกนและแสดงเป็นรายการให้เห็นได้
จากเดิมที่เราต้องเสียเวลาค้นหาหรือลืมสินค้าบางอย่างจนหมดอายุและต้องทิ้งไปในที่สุด ต่อไปเราสามารถสั่งให้มันแจ้งเตือนเมื่อสินค้าบางตัวใกล้วันหมดอายุ ทั้งสามารถใช้นิ้วสัมผัสที่หน้าจอแสดงผลด้านหน้าตู้เย็น เพื่อเลือกว่าจะกำหนดปริมาณขั้นต่ำของสินค้าบางตัว เช่น ไข่ เนย นม ถ้าเหลือในปริมาณที่น้อยให้แจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เพื่อที่จะดำเนินการสั่งสินค้ามาเติม
ในมุมที่ร้านค้าต้องการอำนวยความสะดวกมากขึ้น อาจจะปรับเพิ่มกระบวนการรับคำสั่งซื้อผ่านแอพและจัดส่งถึงบ้านในแบบที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการพัฒนาระบบเชื่อมต่ออัตโนมัติโดย IoT ของตู้เย็น สามารถเชื่อมต่อและส่งคำสั่งซื้อมาเข้ากับระบบของร้านค้าได้ ดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านตั้งรายการสินค้าที่เมื่อเหลือน้อยให้ส่งคำสั่งเชื่อมตรงไปยังร้านค้าได้เลย ด้วยกระบวนการที่เจ้าของบ้านอนุญาตให้ตู้เย็นคุยกับร้านค้าได้เอง รวมขั้นตอนทั้งหมดเป็น Internet of Process (IoP) และทำให้เกิดรูปแบบทางธุรกิจใหม่ที่ก้าวไกลและตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้ง่ายขึ้น
องค์กรต่างๆ สามารถสร้าง IoP ขึ้นมาได้อีกมากมาย และมันจะกลายเป็นบริการที่ชาญฉลาด และช่วยแก้ปัญหาของคนที่มักจะลืมที่จะทำหลายอย่างจนกระทั่งเกิดผลเสียหาย งานซ่อมบำรุงต่างๆ ของเครื่องจักรอุปกรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในโรงงาน โรงแรม โรงเรียน หรือบ้านเรือน จะง่ายมากขึ้นเมื่อติดตั้ง IoT และผนวกเข้าไว้ในกระบวนการซ่อมบำรุง เมื่อถึงระยะเวลาตามกำหนดหรือสภาพเครื่องควรที่จะต้องซ่อมบำรุงแล้ว มันจะส่งคำสั่งไปยังศูนย์บริการอัตโนมัติ ช่างสามารถนัดหมายเจ้าของสินค้าเพื่อเข้ามาให้บริการได้โดยง่ายโดยนำแนวคิด IoT ไปต่อยอดพัฒนาเป็นกระบวนการทางธุรกิจแบบ IoP