ส่องอสังหาฯหรูหัวหิน ปฐมบทเชนโรงแรมรุกคอนโด
หัวหินถูกยกให้เป็นที่พักตากอากาศของ “ชนชั้นสูง” (Elite Group) มายาวนาน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ตลาดลักชัวรี่ โครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาจึงต้องนำเสนอชีวิตหรูที่แตกต่าง
อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี จำกัด มองภาพรวมการพัฒนาโครงการอสังหาฯ หัวหินในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2552-2562) โครงการลักชัวรี่เปิดตัวต่อเนื่องบนพื้นที่จำกัด เริ่มต้นจากปี 2552 มีโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ปี 2557 โครงการ วานา นาวา หัวหิน ในปี 2559 เปิดตัว บลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์ ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวถึง 3.7 ล้านคน หัวหินมีนักท่องเที่ยวเติบโตเฉลี่ยกว่า 7.1% ต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตทุกปี ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวคนไทยมาพักผ่อน 75% และตลาดยุโรป 15.9% รองลงมาคือ เอเชีย 6%
หัวหินบูมอย่างหนักมีการเปิดตัวโครงการอสังหาฯ จำนวนมากระหว่าง ปี 2554 -2558 จนถูกดูดซับไปเกือบหมด กระทั่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2559- 2562) ซัพพลายเริ่มลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ชายหาดเพราะไม่มีที่ดิน โดยสัดส่วนหัวหินเป็นเพียง 3% ของซัพพลายโครงการบริเวณชายหาดที่มีกว่า 356 ยูนิต ประกอบด้วย หัวหิน ชะอำ เขาเต่า ปราณบุรี
สะท้อนว่า หัวหินซัพพลายน้อยกว่าความต้องการ (ดีมานด์) จึงทำให้มีดีมานด์สะสมจำนวนมาก โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ย 80% และคอนโดชายหาดมีอัตราการขายมากกว่า 80%
“โครงการชายหาดหัวหินไม่มีการพัฒนาเวลากว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการพัฒนาที่ดินในบริเวณนี้ไปเป็นโรงแรมระดับห้าดาว และรีสอร์ทเป็นส่วนใหญ่ที่มีการเปิดตัวเพียง 356 ยูนิต จึงทำให้ไม่มีพื้นที่พัฒนาต่อ แต่ดีมานด์สะสมยังสูง”
ด้านพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ.พราว (PROUD) กล่าวถึงโครงการล่าสุดภายหลังจากเข้าไปซื้อหุ้น บริษัท โฟคัส ดีเวลวอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น บมจ. พราวฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล กรุ๊ป (ไอเอชจี) เชนโรงแรมระดับโลก เปิดตัวโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ตอบโจทย์ที่พักอาศัยในรูปแบบการบริการโรงแรมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ระดับโลก
โดยโครงการมีมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เนื้อที่ 7 ไร่เศษ มี 238 ยูนิต ราคา 7.89-100 ล้านบาท ซื้อที่ดินมาในราคา 150 ล้านบาท/ไร่ ทุบสถิติสูงที่สุดในหัวหิน โดยพัฒนาโครงการราคา 200,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งยังคงทุบสถิติราคาขายสูงที่สุดในหัวหิน
“โครงการนี้เป็นโครงการแรกตามเป้าหมายของการเปิดตัวโครงการ 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี (2562-2566) ซึ่งขณะนี้มีที่ดินที่ติดกับ วานา นาวา เนื้อที่ 5 ไร่ ที่จะเปิดตัวโครงการในปี 2563 และกำลังพิจารณาทำเลในภูเก็ต”
ด้านไพสิฐ แก่นจันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ ทางพราว เป็นผู้ลงทุนและทำการตลาด ขณะที่ทางไอเอชจีเข้ามาช่วยในด้านการบริหารการบริการที่มีคอนเซ็ปต์แตกต่างจากคอนโดที่ไม่ใช่เพียงการพักอาศัย “More than just living” โดยเพิ่มการบริการเช่น อาหาร ทำความสะอาด จัดงานเลี้ยง โดยค่าส่วนกลางประมาณ 100 บาทต่อตร.ม. เพิ่มมูลค่าได้สูง 30-40 % หากเทียบกันกับคอนโดฯ ระดับหรูบริเวณใกล้เคียง
“การลงทุนครั้งนื้ถือเป็นโมเมนตัมสำคัญที่ทำให้แบรนด์พราว ได้รุกเข้าสู่การพัฒนาตลาดเรสซิเดนท์ อย่างชัดเจนหลังจากเข้าซื้อกิจการจาก FOCUS”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายจับกลุ่มตลาดครอบครัวคนไทย กลุ่มมองหาบ้านพักตากอากาศแห่งที่ 2 สามารถเดินทางสะดวก โดยหากมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน เสร็จตามกำหนดภายใน 4-5 ปีทำให้ใช้เวลา 45 นาที หัวหินจะกลายเป็นบ้านหลังที่ 1 ให้กับคนทำงานที่ต้องการพักอาศัยในหัวหินและทำงานได้กรุงเทพฯได้
ด้านเซเรน่า ลิม รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อินเตอร์คอนติเนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (ไอเอชจี) ผู้ร่วมทุน มองการนำแบรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส ซึ่งเป็นแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียงไม่กี่แห่งในมหานครชั้นนำของโลกเท่านั้น เช่น บอสตัน ดูไบ โดยมีหลักการพิจารณาคือ ความสัมพันธ์ทางธุรกิจมายาวนานกว่า 15 ปี ทำให้พราว มีผลงานที่เคยทำตลาดลักชัวรี่ ประกอบกับทำเลที่ถือว่าดีที่สุดในหัวหิน และสินค้าที่แตกต่าง จึงส่งผลทำให้กลุ่มธุรกิจมองว่าสามารถนำประสบการณ์การบริการโรงแรมลักชัวรี่เข้าถึงลูกค้าคนไทยได้
“กลุ่มไอเอชจีมีสาขาเลือกเปิดแบรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส ในโลกเพียง 8 แห่ง และไทยเป็นแห่งที่ 9 ของโลก เพราะเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันมายาวนานกว่า 15 ปีตั้งแต่โครงการแรก คือ อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหินปี 2552 และมีโครงการอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ในเครือรวม 5 โครงการ”