ธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก “เทคโนโลยีดิจิทัล” หรือดิจิทัล ดิสรัปชัน การแจ้งเกิดช่องทางขาย “ออนไลน์” ที่สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เลี่ยงไม่ได้ที่ "ศูนย์การค้า" ต้องเร่งปรับตัว
สมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มบีเคพยายามออกแบบให้ศูนย์การค้าตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ทั้งชาวไทยที่เข้ามาใช้บริการเป็นสัดส่วน 40% ขณะที่ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ 60% ยิ่งเมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าชาวชาติที่เข้ามาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา เอ็มบีเค ใช้งบกว่า 4,000 ล้านบาท ในการปรับพื้นที่ครั้งใหญ่ จัดโซนนิ่ง เพิ่มแม่เหล็กใหม่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วง ล่าสุดอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่สำหรับบริการจัดทำหนังสือเดินทางระหว่างประเทศทันสมัยบนชั้น 5 ขนาด 1,500 ตร.ม. คาดเปิดบริการวันที่ 29 มิ.ย.2563
นอกจากนี้ยังมีบริการสำนักงานเขต ไปรษณีย์ ให้บริการแบบครบวงจร และวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะมีการเปิดตัว “Digital Live Studio” หรือ “ตู้ปลา” ของวงไอดอลชื่อดัง BNK48 ที่ชั้น 7 ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงกลุ่มลูกค้าคนไทยให้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าเอ็มบีเค คาดว่จะสามารถเพิ่มลูกคนไทยได้วันละ 30,000 คน หรือมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการวันธรรมดา 100,000 คนต่อวัน เสาร์-อาทิตย์ 120,000 คนต่อคน จากปัจจุบันปริมาณลูกค้าใช้บริการวันธรรมดา 80,000 คนต่อวัน เสาร์-อาทิตย์ 100,000 คนต่อคน
เอ็มบีเค วางกลยุทธ์เป็นศูนย์การค้าที่แตกต่างจากศูนย์การค้าอื่นคือเป็นสินค้าที่ลูกค้าจับต้องได้ ซื้อได้ในราคาที่ไม่เกินกำลังซื้อโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝากที่ดีและถูก!!
“วันนี้ศูนย์การค้าต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันกับออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จะเป็นแค่ศูนย์การค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมีบริการที่ดึงดูดให้คนเข้ามาในศูนย์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นคนไทยและชาวต่างชาติ โดยยอดซื้อต่อคนต่อบิลของต่างชาติเฉลี่ย 2,000 บาท คาดว่าปีหน้าขยับเป็น 3,000 บาท ขณะที่คนไทยซื้อน้อยส่วนใหญ่เข้ามารับประทานอาหาร”
ส่วนศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ประกอบด้วย เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ที่สร้างมาเพื่อเติมเต็มพื้นที่แถวนั้นในรูปแบบของคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม มีลูกค้าใช้บริการ 14,000 คนต่อวันจากเดิม 8,000-9,000 คนต่อวัน ส่วนพาราไดซ์ พาร์ค และพาราไดซ์ เพลส จับกลุ่มลูกค้าครอบครัวโซนศรีนครินทร์ รวมถึงวัยเกษียณ ซึ่งตัวเลขการเข้ามาใช้บริการลดลงเหลือ 40,000 คนต่อวันจากเดิม 50,000 คน เพราะถนนศรีนครินทร์อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
“แต่ยังอยู่ได้!! เพราะกำลังซื้อดี ต่อคนต่อบิลกว่า 1,000บาท ในปีหน้ามีแผนที่จะเปิดตัวเดอะไนน์ ติวานนท์ ใกล้สนามกอล์ฟ ริเวอร์เดลเพื่อรองรับนักช้อปนนทบุรี และปทุมธานี เพื่อให้บริการลูกค้าครบวงจร รวมทั้งย้ายการประมูลรถที่ใหญ่ที่สุดที่บางนาไปไว้ที่ติวานนท์”
ในปีหน้า เอ็มบีเค วางเป้าหมายในแง่กำไรน่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักถือว่าประสบความสำเร็จ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันสูง กำลังซื้อน้อยลง เงินบาทแข็ง ส่วนปี 2562 ตลาดชะลอตัว แนวโน้มการแข่งขันในธุรกิจศูนย์การค้ารุนแรงขึ้น เหนื่อยขึ้น โดยเฉพาะรายใหม่ที่เข้ามาย่านราชประสงค์
ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ ยุทธวิธีที่ผสมผสานความต้องการและสร้างความแตกต่างในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ อาทิ การทำ “แอพพลิเคชั่น” ใช้เป็นช่องทางสื่อสารและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์การค้าเอ็มบีเค สินค้าและบริการ ไฮไลท์ร้านค้า สิทธิประโยชน์ต่างๆ โปรโมชั่นแคมเปญถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนจีน ทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนและนักท่องเที่ยวคนจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีคนโหลดใช้แอพฯ 70,000 ราย นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีเอไอปัญญาประดิษฐ์ (AI)มาวิเคราะห์พื้นที่ว่า จุดไหนที่คนเดินเยอะนำแคมเปญอะไรออกมานำเสนอให้กับลูกค้า
“การทำธุรกิจต้องไม่หยุดนิ่งโดยเฉพาะธุรกิจรีเทลเปลี่ยนแปลงเร็วและแรงมากถ้ายังทำแบบเดิมอยู่รอดยาก 10 ปีที่แล้ว 10 ปี ต่อจากนี้การทำตลาดไม่เหมือนเดิม ยกตัวอย่างจุดขายแรกของเอ็มบีเค ฟูดคอร์ท ถัดมาโทรศัพท์มือถือ และล่าสุด ถ้านึกถึงการซ่อมและบริการต้องมาเอ็มบีเค อาทิ หัวเว่ยเปิดศูนย์ซ่อมที่ชั้น 5”
สมพล กล่าวย้ำว่า ปัญหาค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นนั้น ไม่กระทบกับเอ็มบีเค เพราะศูนย์ไม่ได้โฟกัสสินค้าแบรนด์เนมแต่เน้นโลคัลแบรนด์ที่ราคาจับต้องได้ ไม่แพง เพราะคนที่เข้ามาต้องการซื้อของไปฝาก