เศรษฐกิจ ‘อินเดีย’ ส่อแซง ‘ญี่ปุ่น’ เป็นเบอร์ 3 โลก
“อินเดีย” ส่อเค้าผงาดเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลกและอันดับ 2 ของเอเชียแทนที่ “ญี่ปุ่น” ภายในปี 2572 ผลจากจำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโต
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น (เจซีอีอาร์) หน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์เศรษฐกิจของญี่ปุ่น เผยแพร่รายงานประจำปีชื่อ “การคาดการณ์ระยะกลางเกี่ยวกับเศรษฐกิจเอเชีย” เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอินเดียซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าราวครึ่งหนึ่งของจีดีพีญี่ปุ่น มีแนวโน้มแตะ 10 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 302 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2578
ธนาคารโลกคาดการณ์เมื่อปี 2561 ว่า จีดีพีของญี่ปุ่นมีมูลค่าอยู่ที่ 4.9 ล้านล้านดอลลาร์ มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย ส่วนจีดีพีของอินเดียอยู่ ที่ 2.72 ล้านล้านดอลลาร์ มากที่สุดอันดับ 7 ของโลก
เจซีอีอาร์ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่อินเดียจะบรรลุเป้าหมายมูลค่าจีดีพีเกิน 5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 151 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2572 หมายความว่า เศรษฐกิจของอินเดียจะแซงหน้าญี่ปุ่นเป็นเบอร์ 3 ของโลกใน 10 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ประชากรเมืองมุมไบและกรุงนิวเดลีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกกว่า 40% ในช่วง 20 ปีจนถึงปี 2578 โดยเมืองมุมไบจะกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลกในแง่ของจำนวนผู้อยู่อาศัย ขณะที่กรุงนิวเดลีจะรั้งอันดับ 5 ของโลก
- ประชากรที่เพิ่มขึ้นในเมืองใหญ่อินเดีย ส่งผลให้การจราจรยิ่งแออัด -
ขณะเดียวกัน การเติบโตของเหล่าสตาร์ทอัพอินเดียจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน เมืองต่าง ๆ ในอินเดียเป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพเกือบ 10% ของสตาร์ทอัพที่ยังไม่จดทะเบียนจากทั่วโลกจำนวน 115 รายซึ่งมีแนวโน้มเติบโตในอนาคตแต่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
- สภาพอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในเมืองมุมไบ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของอินเดีย -
ขณะเดียวกัน เจซีอีอาร์ยังคาดการณ์จีดีพีในปี 2578 สำหรับ 81 เมืองสำคัญใน 185 ประเทศและภูมิภาคของโลก พบว่า เมืองสหรัฐ 5 เมืองรั้งอันดับต้น ๆ ในการประเมิน โดยนครนิวยอร์กครองอันดับ 1 ตามมาด้วยกรุงโตเกียว อันดับ 2 ส่วนเมืองโอซากาน่าจะรั้งอันดับ 10 ของโลก