“พล.อ.ประยุทธ์” เผย "ต่างชาติ" ร่วมรบ. 18 พรรค ไม่ยุ่งตายหรือ โวคุยกันรู้เรื่อง ทำงานได้ ขออโหสิกรรมสื่อทำให้ไม่สบายใจ วอนเลิกข่าวปิงปอง ลั่นแพไม่ล่ม ตราบที่ยังยืนอยู่ตรงนี้
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.62 เวลา 11.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวระหว่างร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้เป็นโอกาสพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ช่วงเวลานี้กำลังเข้าสู่บรรยากาศปีใหม่ อย่างน้อยก็พบปะกันปีละครั้ง คนไทยเฉลิมฉลองได้ทุกวาระ ปีใหม่ก็มีสงกรานต์ก็มี คริสต์มาสก็เอาอีก นี่ละประเทศไทยมีความหลากหลาย เหมือนวันนี้รัฐบาลก็มากันหลากหลาย เป็นรัฐบาลแรกที่มีพรรคการเมืองร่วมถึง 18 พรรค ไม่เคยมีเท่านี้มาก่อน เวลาไปต่างประเทศเขาก็ถามตนว่ามีกี่พรรคตนบอกไปว่า 18 พรรค เขาบอกว่าตนไม่ยุ่งตายเลยหรือ ตนก็บอกไปว่าไม่เป็นไรเราคนไทยด้วยกันคุยกันรู้เรื่อง ทำงานได้ เพราะเรามีจุดประสงค์ความมุ่งหมายอันเดียวกันคือทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของเราเป็นหลัก เราทุกคนต่างทราบดีว่าปัญหาของเราอยู่ที่ไหนบ้าง บางอันก็ได้รับการแก้ไขมาบ้างแล้ว บางอันก็ไม่ได้เริ่มการแก้ไขและบางอย่างก็แก้ไขเสร็จไปแล้ว เพราะฉะนั้นการมาพบกันวันนี้ถือเป็นการสร้างความเข้าใจระหว่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ตนอยากฝากสื่อมวลชนไว้คือ ทำอย่างไรคนไทยของเราถึงจะรู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรก็ตาม ถ้าสองอย่างนี้หายไปมันก็แย่ไปทั้งหมด จึงต้องรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกที่ดี จะทำอะไรก็ตาม มีบวกมีลบเสมอ
นายกฯ กล่าวว่า เราในฐานะรัฐบาลทุกคนก็ทำงานเต็มที่ และตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดกรอบให้ดีในเรื่องการจัดทำโครงการงบประมาณให้มีความเหมาะสม และต้องรักษากติกาให้เป็นไปตามกรอบกฎหมายด้วย รวมถึงพ.ร.บ.ต่างๆที่มีเยอะแยะ ซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ตนอยากให้สื่อนำเสนอข่าวในแนวทางที่ก้าวไปข้างหน้า ถ้านำเสนอแต่ในเชิงลบทั้งหมดปัญหาจะเกิดขึ้น แล้วก็จะก่อหวอดไปเรื่อยๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีตที่ผ่านมา มันถึงทำให้ตนต้องมาอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่มีตรงนั้นมันก็ไม่มีตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็อย่าทำกันอีกก็แล้วกัน ทุกคนต้องเอาอดีตมาทำปัจจุบันเพื่อนำไปสู่อนาคต โดยพื้นฐานบริบทความเป็นคนไทยสื่อทุกคนตนนั้นรู้ว่าตั้งใจทำงานตามหน้าที่ที่ตั้งใจว่าจะเป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณ เป็นผู้สื่อข่าวที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมองอย่างที่นายกฯมองคือรัฐบาลมองประเทศชาติเป็นหลัก อะไรก็ตามที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายก็เบาๆสักนิดนึง เพราะวันนี้เราอยู่ในขั้นที่เรียกว่าเรากำลังเตรียมการเรื่องเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งหลายสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้กำลังให้ปรับการสื่อสารรูปแบบใหม่ว่าทำอย่างไรคนถึงจะรู้ว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง กำชับว่าให้มีการนำเสนอให้เป็นเรื่องๆไป และต้องสอนให้คนเข้มแข็งเปลี่ยนแปลงตัวเอง รอรัฐบาลให้อย่างเดียวมันไม่มีวันเข้มแข็ง ซึ่งช่วงปีใหม่ก็เป็นห่วงพวกเราทุกคนคงไปพักผ่อนกันในต่างจังหวัดกับครอบครัวก็ขอให้มีความสุข เดินทางปลอดภัย ตนไม่อยากให้มีการตายการเจ็บ
“ขอขอบคุณสื่อทุกคนวันนี้มาเจอกันพร้อมหน้าอีกครั้ง สิ่งใดก็ตามที่ผมอาจจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ พูดจาไม่ไพเราะต่างๆผมขออโหสิกรรมด้วยก็แล้วกัน ไม่ได้ ต้องเคารพเขา ต้องเคารพสื่อ ต้องเป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณ รู้อยู่แล้วว่าอะไรคือจรรยาบรรณ อะไรที่จะขัดแย้งมากๆ บางครั้งบางเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งก็อย่าไปขยายมากนัก ไม่เกิดประโยชน์และให้มองข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผมเองเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร แล้วที่ต้องทำต่อเพราะอะไร อยากจะยืนยันว่าผมไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยฝีมือของพวกเรา ฝีมือของรองนายกฯที่มาจากหลายพรรคการเมืองต้องทำให้ได้ เพราะฉะนั้นน้องๆทุกคนมีโอกาสที่จะช่วยเหลือเราตรงนี้ คือการสร้างความเข้าใจให้ประชาชน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เผอิญนายกฯเป็นคนที่ลงรายละเอียดของการทำงานมาก อาจจะจู้จี้มากกับท่านนิดนึงในการทำงาน แต่มันเป็นนิสัยของเรา ตนก็ทำงานแบบนี้มาตลอดชีวิต คือจะลงรายละเอียดเกือบทั้งหมด จนบางครั้งก็ปวดหัวเหมือนกัน เมื่อคืนพูดเยอะหลายเรื่อง ปวดหัวกลับบ้านกินยานอนหลับไป1เม็ดเพราะปวดหัวมาก มีเรื่องอื่นๆให้คิดด้วยทั้งวัน ระหว่างนั้นนายกฯระบุว่า คงไม่มีอะไร จะมีอะไรอีกละ จะพูดอะไรอีก อยากพูดอะไรให้มีเรื่องอีกหรือไม่ ตนเป็นคนใจเย็นไม่ใช่คนใจร้อนแบบเดิม แต่ตนก็ยังดุดันเหมือนเดิม อะไรที่มันไม่ถูกต้องตนก็ไม่ให้ อะไรที่ถูกต้องและยอมรับซึ่งกันและกันทั้งหมดก็ให้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งนักการเมือง ข้าราชการ รวมถึงพนักงานลูกจ้างตนก็เห็นใจ
“เรื่องเศรษฐกิจสำคัญที่สุด สิ่งที่จะเกื้อหนุนคือ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพทางการเมือง เพราะฉะนั้นเรื่องที่ใครพูดกันไปกันมาแล้วจะมาตีกันอยู่อย่างนี้ ผมว่ามันไม่เกิดประโยชน์ พอพูดมานักข่าวให้ความสำคัญก็ตีกันออกไป แล้วไปถามคนที่ถูกตีตรงโน้นมันก็ตีเด้งไปเด้งมา ตีปิงปองกันทั้งวัน ต้องบอกว่าวันนี้เราเข้ามาทำอะไร รัฐบาลที่แล้วแก้ปัญหาอะไรไปแล้วบ้าง แล้วมาแก้ต่อในรัฐบาลนี้ ซึ่งกติกาก็รับกันทั้งหมดอยู่แล้ว อย่ามองว่าแพจะแตกแพจะล่มหรือเปล่า ไม่มีล่มหรอก ถ้าผมยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีล่ม จะต้องยืนอยู่ให้ได้ นั่นคือครม. ครม.ของคนทั้งประเทศไม่ใช่ครม.ของพรรคใดพรรคหนึ่งพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง และยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลไม่มีตูดขาดอะไรทั้งสิ้น อย่าไปวิจารณ์กันเรื่อยเปื่อยถ้าเราควบคุมการใช้งบประมาณได้แบบนี้เช่น 4-5 ปีที่ผ่านมาผมว่าไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน ต้องบริหารให้ได้ให้พอ อะไรที่ทำแล้วไม่ได้ผลก็ต้องเลิกทำ” นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า เอาละพูดเป็นสาระมากไปหน่อยแล้ว แต่ที่รู้อย่างหนึ่งคือปวดหัวเพราะพูดเยอะ คิดเยอะ คิดแล้วก็พูด แล้วพูดอย่างระมัดระวังมันเครียดนะจะบอกให้ มันหลุดไม่ได้เพราะมีคนตั้งแท่นรอเขียนไว้หมดแล้ว ก่อนจะกล่าวทีเล่นทีจริงกับผู้สื่อข่าวว่า ใช่หรือไม่ ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบกลว่า ไม่มี เขียนตามที่นายกฯพูด นายกฯยังกล่าวอวยพรด้วยว่า เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสและวันปีใหม่ ขอให้มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดหวังสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จทุกคน ใครที่คิดทำให้ประเทศชาติและประชาชนมากๆก็ขอให้กุศลนั้นนำไปสู่ความสุข ฝากอวยพรไปถึงคนไทยทุกคนด้วย เราไม่รักกันแล้วใครจะรัก ทุกอย่างอยู่ที่สองมือของเราทั้งนั้น อย่างที่บอกสองมือกับหนึ่งหัวใจ ทำอะไรได้เยอะแยะ ถ้าเราไม่รวมพลังกันให้ได้มันทำอะไรไม่ได้สำเร็จสักอย่าง ตนเป็นแต่เพียงผู้นำพาผู้ดูแล อำนวยความสะดวก เรื่องกติกากฎเกณฑ์ต่างๆ วันนี้ก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่อย่าให้ทุกอย่างกลับไปอยู่ที่เดิม