พปชร. ตั้ง 'อนุชา-ไพบูลย์' นั่งรองหัวหน้า พร้อมสยบข่าวแยกก๊ก
"แกนนำสามมิตร" ร่วมคณะบริหารชุดใหม่ครบ ด้าน "อุตตม" สยบข่าวแยกก๊ก ชี้เพื่อเพิ่มการทำงาน-ประสานงานในพื้นที่ เร่งเดินหน้าหาสมาชิกพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฐานะหัวหน้าพรรคเป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาวาระสำคัญ 2 ประเด็นคือการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ของพรรค และพิจารณาตั้งคณะกรรมการบริหาารพรรคเพิ่มเติม อีก 17 คน เพื่อทดแทนกรรมการบริหารพรรคที่ลาออกไป 7 คน ได้แก่ นายชาญกฤช เดชวิทักษ์, นายณพพงศ์ ธีระวร, นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล, นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์, นางวลัยพร รัตนเศรษฐ, น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ และ นายวิเชฐ ตันติวานิช ทำให้พรรคมีจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 34 คน
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคที่เพิ่มขึ้นใหม่ อีก 17 คน ได้แก่ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, 2. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายช่ือ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, 4.นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ, 5.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 6.นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , 7.นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี , 8.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , 9.นางประภาพร อัศวเหม สมาชิกพรรค, 10.นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ , 11. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื้อ, 12.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส, 13. นายสกลธี ภัทธิยกุล สมาชิกพรรค, 14.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, 15.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ, 16.นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร และ 17. นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง
ภายหลังการประชุมและลงมติ นายอุตตม ให้สัมภาษณ์ว่าการปรับคณะกรรมการบริหารพรรคที่มีจำนวน รวม 34 คนนั้น มติที่ประชุมได้ตั้งให้นายอนุชา และนายไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค เพื่อให้เข้ามาช่วยงานของหัวหน้าพรรคที่มีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่ได้หารือถึงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเลขาธิการพรรค จากเดิมที่เป็นนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ฐานะเลขาธิการพรรค ส่วนข่าวที่ปรากฎก่อนหน้านั้นว่าพรรคจะปรับเปลี่ยนเลขาธิการพรรค ตนไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเข้าใจว่าเป็นเพียงข่าวที่เกิดขึ้น และความเห็นที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ผลการประชุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนกรณีที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่แกนนำกลุ่มสามมิตร อาทิ นายสมศักดิ์ , นายสุริยะ เข้ามามีตำแหน่งบริหารนั้นไม่ใช่สยบประเด็นการแบ่งขั้ว หรือแบ่งก๊ก แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ พรรคพลังประชารัฐคือพลังสามัคคี ความเห็นต่างที่เกิดขึ้นถือเป็นปกติ แต่พอถึงเวลาทำงานคือมองทางเดียวกัน และร่วมกันทำงาน
“การเปลี่ยนแปลงของคณะกรรมการบริหารพรรค มีตัวแทนจากทุกภาค แกนนำของพรรคที่อยู่ในภาคต่างๆ เข้ามาร่วมกันการทำงาน ผมคิดว่าทำการประสานงานและการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะได้ใช้ศักยภาพของบุคลากรภายในพรรคที่มี หลังจากนี้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะหารือ เพื่อประสานงานถึงการยึดโยงงานในพื้นที่ ตามยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ฐานะกนนำรัฐบาลเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ส่วนการทำงานที่ผ่านมา ผมประเมินว่าเป็นการทำงานที่ต่อเนื่อง ส่วนจำนวนสมาชิกพรรคที่มีเพียง3.3หมื่นคนนั้น เชื่อว่าไม่เป็นปัญหาต่อการเลือกตั้งเพระจากนี้กรรมการบริหารพรรคจะหารือถึงการเพิ่มสมาชิกในพื้นที่ได้” นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวถึงการปรับโลโก้ใหม่ ในส่วนของแบ็คกราว จากเดิมที่ใช้รูปหกเหลี่ยม สีธงชาติ ไปเป็น รูปวงกลม แต่คงสีสันเหมือนเดิมว่า แสดงถึงความสามัคคีและพลังของคนในพรรค ทั้งนี้ในที่ประชุมทุกคนเห็นร่วมกันและเห็นชอบต่อการปรับเปลี่ยน
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนโลโก้พรรคพลังประชารัฐ ตามที่สื่อมวลชนต้ังคำถามว่า เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ให้พรรคมีความกลมเกลียวเพิ่มมากขึ้น ว่า “ใช่ๆ”.