'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ที่สุดแห่งปี 2562

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ที่สุดแห่งปี 2562

อาจไม่เห็น "บิณฑ์" ในสื่อเก่า อย่างจอทีวีบ่อยนัก แต่บนสื่อสมัยใหม่ในโซเชียลมีเดียนั้น เรื่องราวของเขากลับถูกกล่าวขานทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จัก หากไปดูเพจเฟซบุ๊คของ "บิณฑ์" มียอดผู้ติดตามกว่า 8 ล้านคน


ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของ กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยแพร่วันนี้ (29 ธ.ค.) เรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2562” ปรากฎว่า บุคคลแห่งปีที่น่าชื่นชมยกย่องมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ อันดับ 1 คือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ (นำทีมกู้ภัยช่วยเหลือน้ำท่วมที่อุบลฯ) ได้ 59.42%

\'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์\' ที่สุดแห่งปี 2562

ขณะที่ ตูน บอดี้สแลม (ก้าวคนละก้าว ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆจัดกิจกรรมวิ่ง ใน 5 ภาคใหญ่เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล และโรงพยาบาลชุมชน) ได้ 21.73 % และเจ้าคุณอลงกตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ (นักบุญสู้เอดส์) 7.84%, ปวีณา หงสกุล (ช่วยเหลือเด็กและสตรี) 3.05 และ บุ๋ม ปนัดดา (ขับเคลื่อนกฎหมายเพิ่มโทษคดีข่มขืนสำเร็จ) 2.3%

กล่าวถึง “บิณฑ์” เพราะโดดเด่นจากบทบาทในการระดมเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมใหญ่ที่อุบลราชธานี มากกว่า 400 ล้าน เหตุที่ผู้คน “เชื่อใจ” โอนเงินเข้าบัญชีมากมายขนาดนั้น นั่นเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย มีตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู

\'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์\' ที่สุดแห่งปี 2562

บทบาทดารารุ่นใหญ่ กว่าจะมาถึงจุดนี้ “บิณฑ์” วัย 57 ปี ผ่านผลงานการแสดงในวงการบันเทิงนาน 3 ทศวรรษ ซึ่งน่าสนใจว่าชีวิตเด็กหนุ่มจากสระแก้ว เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบและแสดงเป็นตัวประกอบหนัง ไต่ฝันจนได้รับบทนำจาก “ตำรวจเหล็ก” แต่ที่สร้างชื่อคนรู้จักระดับประเทศจากละครโทรทัศน์เรื่อง “แผลเก่า” ทางช่อง 7 เมื่อปี 2531 และเล่นละครต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง

แน่นอนว่า ชีวิตนักแสดงเมื่อถึงวัยเข้าเลขสี่ จากบทบาทความเป็น “พระเอก” ก็คงหลงเหลือไว้เพียงตำนานเพราะคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ หากแต่ความสามารถและการสั่งสมประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์มายาวนาน บิณฑ์กลับมาโด่งดังอีกครั้งในบท “อ้ายทองเหม็น” จากภาพยนตร์เรื่องบางระจัน ปี 2544 โดนใจกรรมการคว้าได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วยตามมาด้วยหนังอีกหลายเรื่อง

\'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์\' ที่สุดแห่งปี 2562

ทว่า การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “บิณฑ์” จากดารารุ่นใหญ่ลุกขึ้นมาทำหนัง “ปัญญา เรณู” ปี 2554 ถือว่าประสบความสำเร็จมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สามารถหาทุนทำหนังต่ออีก 2 ภาคด้วยกัน และทำหนังออกมาประมาณปีละเรื่อง ได้แก่ กรรไกร ไข่ ผ้าไหม, กระสือครึ่งคน, ทองดีฟันขาว และฮักบี้ บ้านบาก

แม้ว่าหนังเรื่องหลังๆ ต่อจาก “ปัญญา เรณู” จะไม่เปรี้ยงปร้างนัก แต่ด้วย “บิณฑ์” มีภารกิจหลักคือการเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือคน มีข่าวคราวเป็นระยะ ทำให้ผู้กำกับหนังรายนี้ยังอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คนสม่ำเสมอ

\'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์\' ที่สุดแห่งปี 2562

อาจไม่เห็น “บิณฑ์” ในสื่อเก่า อย่างจอทีวีบ่อยนัก แต่บนสื่อสมัยใหม่ในโซเชียลมีเดียนั้น เรื่องราวของเขากลับถูกกล่าวขานทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จัก หากไปดูเพจเฟซบุ๊คของ “บิณฑ์” มียอดผู้ติดตามกว่า 8 ล้านคน


ซึ่งอีกไม่กี่ปี “บิณฑ์” จะครบแซยิดแล้ว เชื่อว่าจะคงมีแรงกำลังกายและกำลังใจ สร้างสรรค์ผลงานด้านภาพยนตร์และช่วยเหลือผู้คนต่อไป..