เมาแล้วขับขึ้นศาลสูงสุดช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลหยุดยาวปีใหม่
"โฆษกศาลยุติธรรม" เผย สถิติคดี27-29 ธ.ค. รวม10,485 คดี ตัดสินเสร็จ 10,070 คดี ข้อหาหลักเมาขับ-ไม่มีใบขับขี่-ขับขณะเสพยา ส่วนกลุ่มศาลเยาวชนฯ เพศชายทำผิดสูง 136 คน ข้อหาหลักเมาขับ-ขับขณะเสพยา
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 62 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงปริมาณคดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นกลุ่มศาลอาญา, กลุ่มศาลจังหวัด, กลุ่มศาลแขวง ทั่วประเทศ ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2563 ประจำวันที่ 29 ธ.ค.ว่า คดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ที่ขึ้นสู่การพิจารณา รวมทั้งสิ้น 8,613 คดี , พิพากษาเสร็จ 8,535 คดี คิดเป็น 99.09%
จังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ จ.นครราชสีมา 414 คดี , ชลบุรี 401 คดี , เชียงใหม่ 384 คดี , กรุงเทพมหานคร 362 คดี , ร้อยเอ็ด 291 คดี
ขณะที่ศาลซึ่งมีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ศาลแขวงเชียงใหม่ 344 คดี , ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด 291 คดี , ศาลแขวงนนทบุรี 253 คดี , ศาลแขวงนครราชสีมา 225 คดี , ศาลแขวงชลบุรี 223 คดี
สำหรับข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ขับรถขณะเมาสุรา 8,181 คน 2.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 1,369 คน 3.ขับรถประมาท 7 คน โดยใน 1 คดีนั้น อาจมีหลายข้อหาที่แจ้งดำเนินคดี
นอกจากนี้ สถิติความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ของกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว มีคำร้องที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 77 คำร้องซึ่งมีผู้ต้องหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 77 คน โดยเป็นเพศชายทั้งหมด โดยผลการตรวจสอบการจับนั้นพบว่าชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด ส่วนข้อหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ มีขับรถขณะเมาสุรา 63 ข้อหา , ขับรถขณะเสพยาเสพติด 14 ข้อหา
นายสุริยัณห์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก รวมระหว่างวันที่ 27 – 29 ธ.ค. พบว่คดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 10,485 คดี โดยพิพากษาเสร็จ 10,070 คดี คิดเป็น 96.04%
สำหรับข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ขับรถขณะเมาสุรา 9,556 คน 2.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 1,593 คน , 3.ขับรถขณะเสพยาเสพติด 259 คน
โดยจังหวัดที่มีคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ คือจ.ชลบุรี 559 คดี , กรุงเทพฯ 521 คดี , จ.นครราชสีมา 500 คดี , จ.เชียงใหม่ 496 คดี , จ.นนทบุรี 327 คดี
สำหรับศาลที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.ศาลแขวงเชียงใหม่ 344 คดี 2.ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด 291 คดี 3.ศาลแขวงนนทบุรี 253 คดี 4.ศาลแขวงนครราชสีมา 225 คดี 5.ศาลแขวงชลบุรี 223 คดี
ส่วนกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว จำนวนคำร้องที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 141 คำร้อง โดยข้อหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ 1.ขับรถขณะเมาสุรา 109 ข้อหา 2.ขับรถขณะเสพยาเสพติด 32 ข้อหา 3.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 2 ข้อหา
ส่วนผู้ต้องหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 141 คน แบ่งเป็นเพศชาย 136 คน , เพศหญิง 5 คน ซึ่งผลการตรวจสอบการจับนั้นชอบด้วยกฎหมาย 141 คน